โตโยต้า ฟันธง "ยอดขายรถ" 6.6 แสนคัน พร้อมปรับเป้าใหม่
โควิดพ่นพิษอุตสาหกรรมยานยนต์ "โตโยต้า"ปรับเป้ายอดขาย - ยอดผลิต -ยอดส่งออก แต่ยังเชื่อมั่นไทยฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น พร้อมคาดการณ์ยอดขายตลาดรวม 6.6 แสนคัน ส่วนโตโยต้าทำได้ 2.2 แสนคัน ลดลง 33.8 % แต่แชร์ขยับเพิ่มขึ้น
นาย มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปีนี้จะทำได้ 660,000 คัน ลดลง 34.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายในครึ่งปีแรกของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยทำได้ 328,604 คัน ลดลง 37.3% ส่วนโตโยต้า ทำยอดขายได้ 94,222 คัน ลดลง 45.1% ครองส่วนแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาด 28.7%
"เดิมต้นปีเราคาดการณ์ว่าตลาดรวมจะทำยอดขายได้ 940,000 คัน ส่วนโตโยต้าทำได้ 310,000 คัน แต่ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ทำให้ยอดขายในไตรมาส 1 อยู่ที่ประมาณ 200,000 คัน และโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 56,200 คัน พอไตรมาส 2 ยอดขายรวมทั้งตลาดทำได้ 128,500 คัน และ โตโยต้ามียอดขาย 38,100 คัน ในทางกลับกันหากเราพิจารณาถึงยอดจำหน่ายรายเดือนของช่วงไตรมาสที่ 2 จะเห็นได้ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงค่อยๆฟื้นตัว อันเป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นาย ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อดูจากภาพรวมของตลาดรถยนต์ในไทย ทำให้โตโยต้าต้องมีการปรับเป้าหมายการขาย การส่งออกและ การผลิต โดยโตโยต้าคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2563 จะทำได้ 220,000 คัน ลดลง 33.8 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือครองส่วนแบ่งทางการตลาด 33.3% (เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 33.0% )
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ทั้งปี อยู่ที่ 194,000 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ส่งออกจำนวน 264,775 คัน ในส่วนของการผลิตรถยนต์ก็เป็นไปตามสภาวะของตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยโตโยต้าคาดการณ์ว่าจำนวนการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2563 จะอยู่ในระดับที่ 408,000 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ผลิตได้ 570,850 คัน
“เดิมเมื่อตอนต้นปีโตโยต้าได้ตั้งเป้าหมายการขายในปี 2563 ที่ 310,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 33.0% ส่วนเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าจะอยู่ที่ 263,000 คัน ด้านการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกจะอยู่ที่ 556,000 คัน แต่เนื่องจากปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบกับอุตสาหกรรมทำให้ต้องมีการปรับเป้าหมาย อย่างไรก็ตามหากในอนาคตตลาดมีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น โตโยต้าอาจจะท้าทายตัวเองด้วยการปรับเป้าหมายให้เพิ่มสูงยิ่งขึ้นไปอีก "
นาย ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน การฟื้นตัวของประเทศไทยดูจะรวดเร็วกว่า และแนวโน้มตลาดรถยนต์ไทยน่าจะไปในทิศทางที่ดี โดยโตโยต้าคาดหวังว่าประเทศไทยจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวให้กับทวีปเอเชียทั้งหมดในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
นอกจากนั้นการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ซึ่งในขณะนี้มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานเป็นจำนวนมาก ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบวกที่ทำให้เชื่อว่ายอดขายรวมของทั้งตลาดจะทำได้ 660,000 คัน
สำหรับโตโยต้าแผนงานในครึ่งปีหลังจากนี้ ได้เร่งเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่ โดยมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ดังจะเห็นจากการทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ปิกอัพ ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ซึ่งหลังจากเปิดตัวก็ได้รับผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งโตโยต้าคาดหวังว่าการเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้นไปอีก
นอกจากนั้นบริษัทได้เปิดตัว “โคโรลล่า ครอส” ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่เพราะเป็นรถยนต์ในเซกเมนต์ที่โตโยต้าไม่เคยทำตลาดมาก่อน