ฮอนด้า ปิดยอดขายปี 2563 ได้ 93,041 คัน ลดลง 26% แต่ยังครองแชมป์ยอดขายในกลุ่มรถยนต์นั่งเมืองไทย ชนะโตโยต้า
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รายงาน ยอดขายรถยนต์ฮอนด้า ปี 2563 ทำได้ 93,041 คัน (เทียบกับปี 2562 ทำได้ 125,833 คัน ลดลง 26%) ครองส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มรถยนต์นั่ง 27.5%
ฮอนด้า ออโตโมบิล เผยยอดขาย ปี 2563 ว่าสามรรถ ครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่ กลุ่มซับคอมแพคท์และอีโคคาร์ กลุ่มคอมแพคท์ กลุ่มซีดานขนาดกลาง (D-segment) และกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์
ขนาดใหญ่ (L-SUV)
ฮอนด้า ครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่
1.กลุ่มรถซับคอมแพคท์ และอีโคคาร์ ยอดขายรวม 51,375 คัน
ฮอนด้า ซิตี้ 35,807 คัน
ฮอนด้า แจ๊ซ 15,568 คัน
2.กลุ่มรถคอมแพคท์ ยอดขายรวม 20,009 คัน
ฮอนด้า ซีวิค 18,249 คัน
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก 1,760 คัน
3.กลุ่มรถขนาดกลาง (D-segment) ฮอนด้า แอคคอร์ด และแอคคอร์ด ไฮบริด ยอดขายรวม 5,265 คัน
4.กลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (L-SUV) ฮอนด้า ซีอาร์-วี 5,374 คัน ยอดขาย 5,374 คัน
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้า และทำให้ตลาดรถยนต์ชะลอตัว แต่ฮอนด้ายังมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าภาพรวมตลาดรถยนต์นั่งในปี 2563 ส่งผลให้สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วนถึง 27.5% และในช่วงปลายปี 2563 ได้เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ็ก ใหม่ และฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ (ไฮบริด) ซึ่งได้กระแสตอบรับดีเยี่ยม ปัจจุบันมียอดจองจากทั่วประเทศ รวมกว่า 5,000 คันแล้ว