จับตาปัจจัยเสี่ยงกระทบอุตฯยานยนต์ไทยปี 64

23 ม.ค. 2564 | 06:33 น.

สถาบันยานยนต์ประเมินปี 64 ไทยผลิตรถได้ 1.4 ล้านคัน พร้อมเผยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ทั้งโควิดรอบ 2 ,การเมืองสหรัฐ,การขึ้นภาษีของฟิลิปปินส์

สถานการณ์ยานยนต์ในประเทศไทยแม้ว่าในช่วงปลายปี 2563 นับตั้งแต่เดือนพ.ย. เรื่อยมาจนถึง ธ.ค. จะเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ทั้งจากการผลิตที่เพิ่มขึ้น การขายในประเทศและการส่งออกไปยังบางตลาด  อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 ระลอกใหม่,สถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกา 

 

โดยสถาบันยานยนต์ ได้ประเมินว่าระบบเตือนภัยอุตสาหกรรมส่งสัญญาณเฝ้าระวังการผลิตผิดปกติระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2563 – มีนาคม 2564 อันเนื่องมาจากและสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกที่ 2 ในทวีปยุโรปและไทย การจับตามองสถานการณ์ทางการเมืองในอเมริกา และที่สำคัญ การตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของฟิลิปปินส์ 

 

 ทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ ถึงแม้ว่าตลาดในออสเตรเลียและไทยจะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม ทำให้สถาบันยานยนต์คาดว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งปี 2564 อาจใกล้เคียงกับที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,400,000 คัน

 

การผลิตรถยนต์เดือนพ.ย.และระบบเตือนภัยอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นการส่งออกรถยนต์ไปประเทศฟิลิปปินส์ที่อาจต้องเผชิญกับ “มาตรการปกป้อง (Safeguard) การนำเข้ารถยนต์ของฟิลิปปินส์” 


ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์นำเข้ารถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ทำให้ Philippines Metalwork Alliance (PMA) เรียกร้องต่อรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ดำเนินมาตรการ Safeguard กับการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ

 

หลังจากการไต่สวนเบื้องต้น รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้กำหนดอากรป้องกันชั่วคราวสำหรับรถยนต์นั่งและรถกระบะมูลค่า 1,500 และ 2,300 เหรียญสหรัฐต่อคัน โดยคาดว่ามาตรการชั่วคราวดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2564 หลังจากนั้น อาจมีการบังคับใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม อาทิ การขึ้นภาษีศุลกากร

 

"ภาคเอกชนของฟิลิปปินส์มีความกังวลต่อมาตรการดังกล่าว ว่าจะส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อรถยนต์ในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ของฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน ยังมีปริมาณการผลิตน้อยกว่าความต้องการของตลาดในประเทศ"

 

นายพิสิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ไทยส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะไปยังฟิลิปปินส์มากเป็นอันดับ 3 และ 2 ตามลำดับ ในขณะที่ฟิลิปปินส์พึ่งพาการนำเข้ารถยนต์นั่งและรถกระบะของไทยเป็นอันดับ 2 และ 1 ตามลำดับ