นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวในงานเสวนาออนไลน์ "รถยนต์ไฟฟ้าพลิกโอกาสธุรกิจ เปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทย” ที่จัดขึ้นโดย "นสพ.ฐานเศรษฐกิจ"เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 64ว่า ปัจจุบัน EA เน้นแบตเตอรี่รถยนต์เชิงพาณิชย์ เนื่องจากเป็นรถที่ใช้งานหนัก ด้วยข้อจำกัดรถไฟฟ้าคือแพง แต่ยิ่งใช้จะยิ่งประหยัดพลังงาน และได้ต้นทุนคืนเร็ว รวมถึงช่วยแก้มลพิษ เกิดอุตสาหกรรมใหม่ และสร้างงาน สร้างอุตสาหกรรมที่ยังไม่เคยเข้าไปอีกด้วย ที่สำคัญยังไม่มีเจ้ายักษ์ใหญ่ที่เข้ามาทำ ซึ่งหากสามารถเข้าไปได้
อีกทั้งการแข่งขันในจุดนี้ยังมีไม่มาก จะทำให้บริษัทไทยมีที่ยืน โรงงานที่ทำมาได้มีโอกาสดำเนินการ สามารถทำอะไรได้ใหญ่ขึ้น และนำไปแข่งขันในเวทีโลกได้
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งการผลิตแบตเตอรี่อย่างอินโดนีเซีย มองว่าอินโดนีเซียกับไทยมีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบต่างกัน โดยอินโดนีเซียเป็นตลาดที่กำลังเติบโตสูง มีประชากรที่มีกำลังซื้อสูง มีนิกเกิล เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ไปสร้างรถไฟฟ้า แต่มีจุดด้อยคือ ระบบไฟฟ้า เพราะเป็นเกาะ ไม่สะดวกทำไฟฟ้า อีกทั้งส่วนใหญ่ยังมีอำนาจซื้อรถไม่สูง ถ้าไทยมีอุตสาหกรรม รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน และใช้โอกาสช่วงเวลาโควิด19ที่นักลงทุนต่างชาติไม่อยากสร้าง ไม่อยากลงทุน ให้มาต่อยอดลงทุนในไทย แต่ถ้าทำช้า ส่งเสริมไม่ถูกทาง จะเกิดปัญหาให้เกิดการย้ายฐานผลิตไปที่อื่นแทน
“ปัจจุบัน EV ตื่นตัวมากขึ้น มีเจ้าใหญ่เข้ามา ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อให้เติบโตไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเป็นเจ้าแรกที่เข้ามาทำธุรกิจแบตเตอรี่ และโรงงานอยู่ระหว่างก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งสิ่งที่อยากเห็นและสิ่งที่ทำในตอนนี้ หากเป็นไปได้ไม่อยากทำคนเดียว อยากเป็นเซอร์วิสให้ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมทำด้วยกันได้ นอกจากนี้ ในระยะยาว Solid-State Battery จะเข้ามาในอนาคตนั้น ทางบริษัทอยู่ในกระบวนการที่จะนำมาผลิตในโรงงานที่ไทย และไม่ต้องลงทุนใหม่"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง