“สรยุทธ”รอด-ไม่รอดคุก13ปี4เดือนวันนี้รู้ผล

21 ม.ค. 2563 | 00:29 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2563 | 11:27 น.

ลุ้นผลวันนี้ “สรยุทธ”รอด-ไม่รอดคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีเบี้ยวค่าโฆษณา อสมท โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในเวลา 10.00 น.

สรยุทธ สุทัศนะจินดา

วันอังคารที่ 21 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป จะได้รู้ผลกันแล้วว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการ “คุย คุ้ยข่าว” จะรอด หรือไม่รอดคุก 13 ปี 4 เดือน ตามที่ศาลชั้นต้น และอุทธรณ์พิพากษา ในคดีเบี้ยวค่าโฆษณา อสมท กว่า 138 ล้านบาท

 

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางพิชชาภา หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท , บจก.ไร่ส้ม, นายสรยุทธ  สุทัศนะจินดา  กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม และอดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง , น.ส.มณฑา พนักงาน บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 1- 4 คดีหมายเลขดำ อ.313/2558 เมื่อวันที่ 30 ม.ค.58

พลิกปูมธุรกิจ "สรยุทธ"

 

จากกรณี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.48- 28 เม.ย.49 ต่อเนื่องกัน นางพิชชาภา พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 ได้จัดทำคิวโฆษณารวม ในรายการ “คุย คุ้ยข่าว” ซึ่งก่อนออกอากาศนางพิชชาภา ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลา จาก บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 1 จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียกรับเอาเงิน 658,996 บาทจากจำเลยที่ 2-4 เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภา ไม่รายงานการโฆษณา ซึ่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท โดยมีจำเลยที่ 2-4 เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ ให้ความสะดวกในการกระทำผิด และมอบเช็คธนาคารธนชาติ สาขาพระราม 4 สั่งจ่ายเงินให้นางพิชชาภา

คดีนี้ ศาลสั่งจำคุก นางพิชชาภา 20 ปี สั่งจำคุก นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และสั่งปรับบริษัท ไร่ส้ม 80,000 บาท ขณะที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทั้งนี้ จำเลยทั้งหมด ต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด นอกจากหากมีเหตุจำเป็นปัจจุบันทันด่วน หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินกะทันหัน ต้องมอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปก่อน 
 


พลิกปูมธุรกิจ”สรยุทธ” เมื่อย้อนดูผลประกอบการธุรกิจของ นายสรยุทธ พบว่านับจากปี 2547 จนถึงสิ้นปี 2559 มีด้วยกัน 2 บริษัท  คือ  1.บริษัท ไร่ส้ม จำกัด มีรายได้รวม 4,694,470,234 บาท กำไรสุทธิ 2,050,806,666 บาท 

2.บริษัท ชัดถ้อย ชัดคำ จำกัด มีรายได้รวม 882,911,820 บาท กำไรสุทธิรวม 432,633,330 บาท โดย บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ปีที่มีรายได้มากสุด คือปี 2558 จำนวน 641,358,482 บาท กำไรสุทธิ 320,374,648 บาท 

บริษัท ชัดถ้อย ชัดคำ จำกัด ปีที่มีรายได้มากสุด ปี 2557 จำนวน 106,007,189 บาท กำไรสุทธิ 63,492,653 บาท (ปีที่มีกำไรสุทธิมากสุดคือปี 2558 จำนวน 66,030,242 บาท) 

แต่จุดที่น่าสังเกตุนั้นก็คือ ในปี 2559 (สิ้นสุด 31 ธ.ค.) เป็นช่วงที่นายสรยุทธถูกศาลชั้นต้นพิพากจำคุก (ศาลอาญาตัดสินเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2559) รวม 2 บริษัท มีรายได้รวม 211,162,853 บาท กำไรสุทธิรวม 89,141,573 บาท ลดลงจากปี 2558 จำนวน 533,616,914 บาท กำไรสุทธิรวมลดลง 297,263,317 บาท

จึงเป็นที่มาปมร้อนเซ่นพิษฆ่าโฆษณา อสมท ค่า 138 ล้านบาท