นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวว่า ในวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศต่ำสุดอยู่ที่ 28 ราย เท่ากับเมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา และจัดอยู่ในอยู่อันดับ 51 ของทั้งโลก
เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดติดเชื้อลดลงแล้ว มีการเรียกร้องควรจะผ่อนคลายได้หรือยัง ก็ต้องยึดคำเตือนขององค์การอนามัยโลก ซึ่งออกมาเตือนประเทศบอกถ้าจะยกเลิกล็อกดาวน์ต้องมี 6 ข้อ
1.ควบคุมการแพร่เชื้อได้แล้วหรือไม่
2.มีมาตรการในการค้นหา ตรวจหาเชื้อ กักตัว รักษาและติดตามผู้ติดเชื้อทั้งหมดแล้วหรือไม่ ข้อนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขยันวันนี้การตรวจหาเชื้อมีน้ำยาตรวจเพียงพอ การขอรหัส ก็ไม่มีปัญหา เพราะ สปสช.รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
3.สามารถลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างต่างๆ อาทิ บ้านพักคนชรา
4.มีมาตรการป้องกันในสถานที่ทำงานโรงเรียน และสถานที่สาธารณะอื่นๆ ที่ผู้คนจำเป็นต้องไป
5สามารถจัดการกับความเสี่ยงหลักๆได้ อาทิ การจัดการกับผู้เดินทางกลับประเทศ
6.คนในชุมชนต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และให้ความร่วมมือ ปรับตัวเข้าแนวปฏิบัติใหม่ได้
“ข้อนี้ค่อนข้างยาก วันนี้ถึงแม้คนไทยจะสวมหน้ากากอนามัย เวลาออกนอก แต่ยังมีคนอีกกลุ่มรวมกลุ่มสังสรรค์ดื่มเหล้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ”
ดังนั้นจะปลดล็อกมื่อไหร่ ในทีมงาน ศบค.กำลังพิจารณาอาจจะมีการผ่อนคลายในลักษณะกึ่งล็อกดาวน์ สำหรับร้านตัดผม คำแนะนำของผู้ประกอบการ ต้องจัดที่นั่งรอ เว้นระยะห่าง ไม่จัดที่นั่งรอในร้าน อาจจะต้องใช้บัตรคิว และระยะเวลาให้บริการต้องไม่เกิน 2 ชั่วโมง คำแนะนำสำหรับผู้ใช้บริการต้องใส่หน้ากากผ้าทุกคน ตลอดเวลา ต้องยอมรับและปฏิบัติให้ได้
อีกสถานที่ ห้างสรรพสินค้า ประชาชนต้องสวมหน้ากากอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ด้านผู้ประกอบการต้องจัดคิว นับจำนวนคนเข้าใช้บริการ ช่วงหนึ่งๆ จำนวน 1,000 คน และการเปิดต้องทยอยร้านสำคัญ เช่น ร้านโทรศัพท์ ธนาคาร และไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย นาทีทอง
โฆษก ศบค.ย้ำว่า“พฤติกรรมของทุกคนต้อง New Normal ค่าปกติใหม่ คือสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เจลล้างมือ และเว้นระยะทางสังคม”
ถ้าเราร่วมมือกันทุกที่ บนถนนต่อคิวรอรถเมล์ห่างกัน 2 เมตร ทาง ศบค.ก็อาจจะไม่ต้องใช้กฎระเบียบมาบังคับต่อไป