นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ในการบริหารการศึกษาในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ศธ.ได้มีการทำงานกันมาอย่างต่อเนื่อง โดย ศธ.จะประเมินสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ของรัฐบาล โดยจะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่ง ศธ.ได้ทำเรื่องเสนอพิจารณาผ่อนปรนโรงเรียนให้ เปิดภาคเรียน ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่ง ศบค.ได้พิจารณาถึงเหตุผลต่างๆ และความจำเป็นอย่างรอบด้านแล้ว จึงมีข้อสรุปว่าขอให้ ศธ.นำมาตรการต่างๆ ของ สธ.และ ศบค. เช่น การจัดพื้นที่ห้องเรียนแบบ Social distancing เด็กนักเรียนทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ภายในโรงเรียนต้องมีเจลแอกอฮอร์ล้างมือทุกจุด และการตรวจวัดไข้นักเรียนก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน เป็นต้น
โดย ศธ.จะประเมินว่าสถานศึกษาใดมีความพร้อมในการดำเนินการตามาตรการดังกล่าว โดยจะมีการประเมินตัว โรงเรียน จากคณะกรรมการสถานศึกษา จากนั้น ศธ.จะจัดส่ง คณะกรรมการ ลงไปประเมินหากพบมีสถานศึกษามีความพร้อมก็จะรวบรวมรายชื่อสถานศึกษาส่งให้ ศบค.เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ขอย้ำว่าการเลื่อน เปิดภาคเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค.เท่านั้น
“นอกจากนี้ในวันที่ 6 มิถุนายน จะเป็นการสอบคัดเลือกนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยจะมีการจัดสอบแบบนิวนอร์มอล คือ การจัดสอบตามมาตรการของสธ.กำหนด ทั้งนี้ตนจะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการสอบคัดเลือกเข้าม.1 ครั้งนี้ด้วย”รมว.ศธ.กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เปิดภาคเรียน” ศธ.ถกอีกรอบกับ ศบค. ก่อนเลื่อนเปิดเร็วขึ้น