"เยียวยากลุ่มเปราะบาง" รายชื่อซ้ำซ้อน หมดสิทธิ์รับ 3,000 บ.

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางล่าสุด(15 มิ.ย) ภายหลังจากที่กระทรวงการคลังได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ว่า ได้ตรวจสอบรายชื่อกลุ่มเปราะบางจาก 13 ล้านคน (เด็กแรกเกิด - 6 ปี จำนวน 1.4 ล้านคน ,ผู้สูงอายุ 9.66 ล้านคน และ ผู้พิการ 2 ล้านคน ) และตอนนี้เหลือไม่ถึง 7 ล้านคน หรือประมาณ 6.5 ล้านคน

สำหรับ 6 ล้านกว่าคนที่ได้ตรวจสอบและคัดชื่อออกไปนั้น ถือเป็นกลุ่มที่มีรายชื่อซ้ำซ้อน ที่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในโครงการต่างๆไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น  "เราไม่ทิ้งกัน" หรือ "เยียวยาเกษตรกร" หรือ "เงินเยียวยาแรงงานของสำนักงานประกันสังคม"ไปแล้ว

ส่วนกระบวนการภายหลังจากที่คัดรายชื่อผู้มีสิทธิซ้ำซ้อน กระทรวงการคลังและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในส่วนของกระทรวงพม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสำรวจข้อมูลต่างๆของผู้ที่ได้รับสิทธิเยียวยาและเตรียมจะเสนอเข้าที่ประชุมครม.ในวันอังคารที่ 16 มิ.ย.นี้

หาก ครม.อนุมัติถึงจะเข้าสู่กระบวนการเบิกจ่ายเงินของกรมบัญชีกลาง โดยคาดว่าจะพยายามจ่ายให้ทันภายในเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนรูปแบบการให้เงินเยียวยากลุ่มเปราะบางนั้นก็จะเข้าบัญชีธนาคารหรือรับเงินสดตามฐานข้อมูลที่ทุกคนได้ลงทะเบียนรับเงินสวัสดิการในทุกเดือนๆอยู่แล้ว
 

นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท จาก "เราไม่ทิ้งกัน" ,"เงินเยียวยาเกษตรกร" หรือ "เงินเยียวยาของประกันสังคม" จะไม่ได้รับเงิน "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" จำนวน 3,000 บาท" อีก (จ่าย1,000 บาท 3 เดือน) โดยสิทธิการช่วยเหลือเยียวยาที่ได้คือ 1 คนต่อ 1 สิทธิเท่านั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เกาะติด "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รับเงิน 3,000บาท

เงินเยียวยา "กลุ่มเปราะบาง"เข้าวันไหน เช็กที่นี่ที่เดียว

"เยียวยากลุ่มเปราะบาง" จาก 13 ล้านคน เหลือ 7 ล้านคน

ไขข้อข้องใจเงิน "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" เมื่อไหร่จะได้

"เอาเป็นว่าได้ข้อสรุปมาเพิ่มทีละเล็กทีละน้อยสำหรับการเยียวยากลุ่มเปราะบาง ที่ตอนนี้คือผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาจากโครงการอื่นๆไปแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิซ้ำซ้อนอีก ส่วนจะมีการขอให้ทบทวนหรือพิจารณาอะไรเพิ่มเติมนั้นก็ต้องรอติดตามกันต่อไป"