นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยถึงแนวทางการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ(แพ็คเกจ "กำลังใจ”, แพ็คเกจ "เราไปเที่ยวกัน" , แพ็คเกจ "เที่ยวปันสุข" )ว่า ในการประชุมหารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ถึงแนวทางการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการลงทะเบียนดังกล่าว จึงได้ให้ททท.กลับไปพิจารณาขั้นตอนการลงทะเบียนให้เหมาะสมมากขึ้นอีกครั้ง ก่อนสรุปเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ทันเปิดลงทะเบียนในวันที่ 1 ก.ค.ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ยืนยันการลงทะเบียนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจะต้องไม่ยุ่งยากซับซ้อน ซึ่งจะทำให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ ทั้งโรงแรม และร้านอาหารใช้งานได้ง่ายที่สุด เพื่อให้มาตรการดังกล่าวมีประสิทธิภาพประสิทธิผลในเชิงการดำเนินการให้มากที่สุด ภายใต้หลักการที่ครม.อนุมัติไปแล้ว ขณะเดียวกัน จะต้องปรับปรุงระบบแพลตฟอร์มให้เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประชาชนและผู้ประกอบการเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้สามารถการันตีการรับสิทธิ์ในครั้งเดียว โดยไม่ต้องให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการทำเรื่องคอนเฟิร์มไปมาหลายรอบ
“การลงทะเบียนต่างๆ ต้องไม่ซับซ้อน ระบบจะเชื่อมโยงกัน ให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนและรอรับสิทธิ์ไปใช้ได้เลย ขณะที่ร้านค้า หรือโรงแรม ก็จะต้องใช้ง่าย ข้อมูลจะลิ้งค์กันหมด โดยไม่ต้องคอนเฟิร์มกันไปมาให้ยุ่งยาก ซึ่งทั้งหมดต้องให้ทุกฝ่ายสะดวกที่สุด แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบที่ครม.อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้วทั้งหมด”นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ ยังเชื่อว่า เมื่อมาตรการมีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น และจะสามารถประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการททท.กล่าวว่า ททท.อยู่ระหว่างการจัดทำแพลตฟอร์มการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวดังกล่าวร่วมกับสศค.อยู่ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ตามพ.ร.ก.1 ล้านล้านบาท พิจารณา ก่อนเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ททท.ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากรัฐบาล เรื่องแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ Travel Bubble โดยททท.ได้จัดเตรียมแผนฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายหลังหมดโควิด-19 เพื่อหวังเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริปที่มาเที่ยวไทยมากขึ้นด้วย