นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า กระทรวงแรงงานตระหนักถึงปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้นกับแรงงานในทุกภาคส่วนของประเทศ โดยเร่งสร้างงาน สร้างอาชีพในทุกมิติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทันที ทั้งนี้ ผลพวงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งได้ส่งผลกระทบถึงสถานการณ์การจ้างงานทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น โดยเบื้องต้นทางกระทรวงแรงงานได้รวบรวมตำแหน่งงานว่างไว้เพื่อรองรับผู้ว่างงานได้แล้วถึง 91,444 อัตรา เพื่อยกระดับฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังพิษโควิด -19
นายสุชาติ รมว.แรงงาน กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ให้ความสำคัญกับปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้นกับประชาชนและไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งทันทีที่ได้รับมอบหมายจาก นายกรัฐมนตรี ทางกระทรวงแรงงานได้จัดการ วางแนวทางแก้ไขปัญหาการว่างงานและเร่งดำเนินอย่างเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานอย่างเร่งด่วนทันที โดยขณะนี้ กรมการจัดหางาน ได้เตรียมตำแหน่งงานว่างไว้รองรับผู้ว่างงานได้แล้ว 91,444 อัตรา แบ่งออกเป็น ดังนี้
ตำแหน่งงานในประเทศ ทั้งในส่วนของภาคเอกชนจากระบบ Smart Job ที่เป็นงานประจำ และงาน part-time รวมทั้งตำแหน่งงานว่างในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการขับเคลื่อนด้านแรงงาน เศรษฐกิจและสังคม จำนวน 42,367 อัตรา (ข้อมูลจาก กองพัฒนาระบบบริการจัดหางาน กรมการจัดหางาน) ซึ่งตำแหน่งงานทั้งหมด ครอบคลุมทุกระดับการศึกษาตั้งแต่ประถมศึกษา จนถึงปริญญาตรี ขึ้นไป
เปิดตลาดในต่างประเทศ โดยได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกแรงงานไทยไปต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้แรงงานไทยเป็นที่ต้องการของตลาดงานต่างประเทศจำนวนมาก เพราะรัฐบาลไทยมีการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้ดี ผู้ติดเชื้อในประเทศไม่มีติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้เป็นโอกาสดีในการขยายตลาดแรงงาน โดยมีการส่งแรงงานไปในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผวา ตกงานพุ่ง ธปท.แก้โจทย์ จี้สร้างศก.ภูมิภาคดูดแรงงานคืนถิ่น
นักศึกษาจบใหม่ 500,000 คน เสี่ยงตกงานถาวร
แรงงานเผยตัวเลขคนเดินทางไปทำงานตปท.พุ่ง หลังโควิดผ่อนคลาย
รับมือว่างงานสูงที่สุดในรอบ 20 ปี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน พบว่า ยังมีตำแหน่งงานที่ยังว่างอยู่ สำหรับส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 49,077 อัตรา ใน ไต้หวัน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาลาเซีย สิงคโปร์ และอิสราเอล ซึ่งกระทรวงแรงงานจะประสานงานใกล้ชิดกับอีกหลายประเทศ เพื่อส่งคนไทยไปทำงานในอาชีพใหม่ๆ ได้ทันทีหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
สำหรับตำแหน่งงาน part-time โดยส่วนใหญ่ต้องการ
1.แรงงานด้านการผลิต
2.พนักงานจัดส่งสินค้าอื่นๆ
3.เจ้าหน้าที่เก็บเงิน,แคชเชียร์
4.เจ้าหน้าที่ขนส่งอื่นๆ
5.พนักงานขาย และผู้นำเสนอสินค้าอื่นๆ
6.แรงงานในด้านการผลิตต่างๆ, แรงงานทั่วไป
7.พนักงานขายทอดตลาด
8.เจ้าหน้าที่สินเชื่อ,เจ้าหน้าที่การเงิน
9.ตัวแทนนายหน้าขายบริการธุรกิจอื่นๆ
10.พนักงานขายสินค้า (ประจำร้าน),พนักงานขายของหน้าร้าน
ส่วนตำแหน่งงานว่างในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ใน 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการขับเคลื่อนด้านแรงงาน เศรษฐกิจและสังคม ประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด ได้แก่
1.แรงงานด้านการผลิตอื่นๆ และแรงงานทั่วไป
2.พนักงานรักษาความปลอดภัย
3.พนักงานบริการอื่นๆ
4.ช่างอัญมณีและช่างประดิษฐ์เครื่องประดับอื่นๆ
5.ผู้ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์
6.ช่างเทคนิควิศวกรรมไฟฟ้า
7.ช่างเทคนิควิศวกรรมโยธา (ก่อสร้าง)
8.พนักงานขาย และผู้นำเสนอสินค้าอื่นๆ
9.เจ้าหน้าที่เทคนิคเคมี, ช่างเทคนิค อาทิ อินทรีย์เคมี ยาง พลาสติก โพลิเมอร์ สี กระดาษ น้ำมัน เส้นใย และ อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
10.เจ้าหน้าที่การตลาดและอื่นๆ อาทิ ช่างเทคนิควิศวกรรมเครื่องกลอื่น ๆ แม่บ้านและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และ ช่างเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า ฯลฯ
พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ เร่งหาตำแหน่งงานใหม่ๆเพิ่มขึ้นโดยทำงานเชิงรุก เดินหน้าเข้าหาสถานประกอบการ หาตำแหน่งทำงานที่ว่าง และ matching งานให้แก่ผู้ว่างงาน รวมทั้งมีการฝึกทักษะอาชีพ พร้อมสนับสนุนเบี้ยเลี้ยง โดยมี ศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ เป็นศูนย์บัญชาการกลาง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ กรมการจัดหางาน ระบุว่า ตำแหน่งงานว่างทั่วประเทศที่นายจ้างต้องการมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
1.แรงงานด้านการผลิต
2.แรงงานในด้านการผลิตต่าง ๆ , แรงงานทั่วไป
3.ช่างอัญมณีและช่างประดิษฐ์เครื่องประดับอื่นๆ
4.ตัวแทนนายหน้าขายบริการธุรกิจอื่น ๆ
5.พนักงานขายสินค้า (ประจำร้าน) , พนักงานขายของหน้าร้าน
6.พนักงานจัดส่งสินค้าอื่น ๆ
7.พนักงานขายและผู้นำเสนอสินค้าอื่นๆ
8.พนักงานขับรถยนต์
9.พนักงานคลังสินค้าอื่นๆ
10.พนักงานดูแลความปลอดภัย, พนักงานรักษาความปลอดภัย(ยาม)
นอกจากนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงานและกระทรวงต่างๆยังได้ระดมกันจัดทำ โครงการเพื่อจ้างงาน สร้างรายได้ อีกเกือบ 100,000 อัตรา เพื่อรองรับการแก้ปัญหาการว่างงานโดยเฉพาะ อาทิ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตร เป็นต้น สำหรับกระทรวงแรงงาน ในปีงบประมาณ 2564 ได้ขอจัดสรรเพื่อดำเนินโครงการจ้างงานให้กับประชาชน จำนวน 30,000 อัตรา
“รัฐบาล ตระหนักว่า หากแรงงานในประเทศ ไม่มีงานทำนั้น ย่อมจะส่งผลต่อการใช้จ่ายของคนในประเทศ อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อไปถึงภาคส่วนอื่นๆ ทางรัฐบาล จะเร่งวางแนวทางและดำเนินมาตรการให้ครอบคลุมและให้ได้ผลดีที่สุดกับพี่น้องภาคแรงงานทุกกลุ่ม ให้ได้กลับเข้าสู่ระบบการจ้างงานให้ได้มากที่สุด และเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปในแนวทางที่ดีขึ้น เพราะว่าประเทศไทย เป็นที่ 1 ในโลกที่แก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนกิจการต่างๆในประเทศสามารถเปิดเป็นปกติได้เกือบ 100% แล้ว เป็นที่อิจฉาของนานาประเทศทั่วโลก นายสุชาติ ระบุ