ผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น ประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม โดยเฉพาะประเทศเมียนมาที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากรายงานสถานการณ์โรคโควิด 19 ณ วันที่ 13 ก.ย. 63 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 173 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,595 ราย
ส่วนประเทศสิงคโปร์ มีผู้ป่วยรายใหม่ 42 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 57,357 ราย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ป่วยใหม่ 58 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 9,868 ราย ประเทศ เวียดนาม มีผู้ป่วยสะสม 1,060 ราย ประเทศกัมพูชา 274 ราย และประเทศลาว มีผู้ป่วยสะสม 23 ราย
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กรมควบคุมโรค โดยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทย ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว อาจพบปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการนำเชื้อโรคโควิด 19 เข้ามาประเทศไทย จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทั้งในบริเวณตะเข็บชายแดนดังกล่าว และในจังหวัดที่แรงงานต่างด้าวมักเดินทางไปทำงาน
สำหรับกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประเมินความเสี่ยงที่อาจแพร่ระบาดมายังประเทศไทย เพื่อวางแผนในการเตรียมความพร้อมรับมือในอนาคต พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังที่ด่านชายแดนปกติ และได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และปกครอง
โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว (อสต.) ร่วมตรวจสอบพื้นที่และตรวจลาดตะเวนในช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งการค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ได้มีมาตรการยับยั้งและป้องกันที่สำคัญคือ การให้ความรู้ อสต. เรื่องการตรวจคัดกรอง การป้องกันตนเอง รวมทั้งการเฝ้าระวัง ร่วมกับการค้นหาผู้ติดเชื้อและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เชิงรุกแก่ประชาชนในพื้นที่ และจัดสถานที่กักกัน local quarantine สำหรับกักตัวด้วย หากพบความผิดปกติ หรือคนแปลกหน้าในชุมชน จะประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
"ขอให้ปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชน ทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกหน่วยงานมีการทำงานร่วมกัน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 "
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง