เรียนรู้การใช้ “ยารักษาโควิด” จากกรณีโดนัลด์ ทรัมป์

05 ต.ค. 2563 | 03:45 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2563 | 10:59 น.

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan วันนี้ (5 ต.ค.) เนื้อหาเกี่ยวกับ ยาที่ใช้ในการรักษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ติดเชื้อ โควิด-19 และกำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ ความว่า

 

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan)

 โควิด 19  ยาที่ใช้รักษาประธานาธิบดี ทรัมป์

 

ทั่วโลกให้ความสนใจกับการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ติดเชื้อโควิค 19  และสนใจการรักษาของประธานาธิบดี

โดยทั่วไปข้อมูลรายละเอียดการรักษา ถือเป็นความลับของคนไข้

 

จากการรายงานของแพทย์ผู้ให้การรักษา และที่เผยแพร่ออกมาในวารสาร Science  โดย Jon Cohen ในวันที่ 2 ตุลาคม 2563  มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ

 

ทรัมป์ได้รับการรักษาด้วยยา Remdesivir และ  antibody cocktail

 

ยา Remdesivir เป็นยาที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Gilead Sciences เพื่อมุ่งหวังรักษาไวรัสตับอักเสบซี ต่อมามีการนำมาใช้รักษาอีโบล่า โดยยาขัดขวางการสร้าง RNA ของไวรัส ที่มีฤทธิ์ได้ต่อไวรัสหลายชนิด จึงมีการนำมาใช้ในการรักษา covid-19  เริ่มจากการศึกษาในประเทศจีน ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ผลที่ได้ไม่แตกต่างกับยาหลอก และการศึกษาได้หยุดก่อนที่จะสิ้นสุดเนื่องจากไม่มีจำนวนผู้ป่วยมากเพียงพอ ต่อมามีการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่ายาสามารถลดปริมาณไวรัสลงได้และมีผลการรักษาปานกลาง ทางFDA สหรัฐอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ยานี้ต้องฉีดเข้าเส้น ระยะเวลา 5 ถึง 10 วัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัพเดตอาการ “ทรัมป์” ป่วยโควิด : "ยังไหว" นั่งรถแวบหมอมาเซอร์ไพรส์ประชาชน

ข่าว “ทรัมป์ติดโควิด” ทำสมาชิกครม. ยันคองเกรสนั่งไม่ติด

ด่วน!ผลตรวจ ทรัมป์-ภรรยา ติดโควิด-19

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง! หลัง "ทรัมป์-ภรรยา" ติดเชื้อโควิด-19

 

 

แอนติบอดี้ที่นำมาใช้รักษาประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กล่าวในวารสาร Science เป็นของบริษัท Regeneron เป็นโมโนโคลนอลแอนติบอดี 2 ชนิด ที่จำเพาะต่อ Spike ใน 2 ส่วน ได้มีการศึกษาในหนูและในลิง และมีการศึกษาในผู้ป่วย covid 19  ระยะที่ 1 และ 2 จำนวน 275 คน โดยที่ผู้ป่วยมีอาการไม่มาก เปรียบเทียบกับยาหลอก โดยให้ยาที่มีแอนติบอดี้ 2 ขนาด ขนาด 8 กรัมและ 2.5 กรัม พบว่าสามารถลดปริมาณไวรัสได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และลดระยะเวลาการดำเนินโรคลงได้ ขณะนี้อยู่ในการ ศึกษาใช้รักษาระยะที่ 3 ในผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นรวมทั้งผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาล ท่านประธานาธิบดีได้ขนาด 8 กรัม 

เรียนรู้การใช้ “ยารักษาโควิด” จากกรณีโดนัลด์ ทรัมป์

โมโนโคลนอลแอนติบอดีที่ได้ ใช้หลักการสร้างขึ้นจาก เซลล์เม็ดเลือดขาวของมนุษย์ที่หายป่วยจากโรค covid 19 แล้ว จึงมีลักษณะจำเพาะที่จะขัดขวางการเข้าไปจับของเชื้อไวรัสกับเซลล์

 

หลักการดังกล่าวคล้ายกับการให้ Plasma ผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้ว การให้ Plasma ก็เช่นเดียวกันก็จำเป็นที่จะต้องให้เร็ว ถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงหรือเกิน 14 วันไปแล้วร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาได้แล้ว การให้ไปจะไม่เกิดประโยชน์

 

 Plasma จากผู้ที่หายจากโรคแล้ว จะมีภูมิต้านทานต่อ covid-19เมื่อมีผู้มาบริจาคเป็นจำนวนมาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ก็สามารถที่จะนำพลาสมา ที่มีภูมิต้านทานสูง มาผลิตในรูปแบบของเซรั่ม ที่มีความเข้มข้นของภูมิต้านทาน จะคล้ายกับโมโนโคลนอลแอนติบอดีดังกล่าว แต่จะมีแอนติบอดี้หลายอย่างรวมกันเข้ามา เซรั่มที่ผลิตขึ้นมา จะเก็บได้ยาวนานกว่า การจะนำมาใช้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

 

เซรั่มที่เอามาใช้ในการรักษาในปัจจุบัน เช่น ป้องกันการติดเชื้อไวรัส B หลังสัมผัสโรค เซรั่มที่ใช้ป้องกันการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าหลังถูกสุนัขบ้ากัด ก็เช่นเดียวกันการให้ภูมิต้านทานจะต้องให้ ตอนที่ผู้ป่วยยังไม่มีการสร้างภูมิต้านทานเกิดขึ้น และเพื่อป้องกัน ลดจำนวนของไวรัสลง

 

นอกจากนี้ในวารสาร Science ยังได้พูดถึงยาที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับอยู่แล้วได้แก่วิตามิน ดี ธาตุสังกะสี ยาลดกรด Fomatidine เมลาโทนิน และ aspirin

 

บทบาทของวิตามินดีในปัจจุบัน เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานของมนุษย์ ในการกำจัดเชื้อโรค ส่วนสังกะสี มีส่วนและบทบาทในระบบเอนไซม์ของมนุษย์ และการสร้าง DNA RNA ยาลดกรดที่ใช้กันมากก็เพื่อป้องกันกรดไหลย้อน  ส่วนเมลาโทนิน ไม่ทราบว่าเพื่อต้องการให้นอนหลับเพราะท่านประธานาธิบดีมีเรื่องมาก หรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วน aspirin ก็ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด จะมีการใช้มากในผู้สูงอายุอยู่แล้ว

ขณะนี้ทั่วโลกได้สนใจอาการของท่านประธานาธิบดีเป็นอย่างมาก

 

โดยทั่วไปถ้าผ่านพ้นวันที่ 5 หลังมีอาการ โดยที่ไม่มีอาการปอดบวมหรือต้องการออกซิเจน ก็น่าจะเบาใจไปได้ระดับหนึ่ง

 

ยังไม่รู้ว่าวันที่ 15 ตุลาคม จะได้มีการดีเบตรอบ 2 หรือไม่และจะจัดกันอย่างไร เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19