โครงการคนละครึ่ง" ลงทะเบียน "รับสิทธิ์ 3000 บาท คึกคัก

16 ต.ค. 2563 | 01:05 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2563 | 06:15 น.

ลงทะเบียนโครงการ "คนละครึ่ง" คึกคัก ชั่วโมงแรก ประชาชนแห่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 3,000 บาท แล้วกว่า 6.4 แสนคน

16 ตุลาคม 2563 เป็นวันแรกที่ กระทรวงการคลัง เปิดให้ ลงทะเบียนโครงการ "คนละครึ่ง" รับเงิน 3,000 บาท  สำหรับประชาชน โดยให้ลงทะเบียนที่ www.คนละครึ่ง.com จำนวน 10 ล้านคน หรือจนกว่าสิทธิจะหมด ตั้งแต่เวลา 6.00-23.00 น. ล่าสุด ณ เวลา 7.00 น. มีผู้ลงทะเบียน แล้ว 642,148 สิทธิ์ สิทธิ์คงเหลือ 9,357,852 สิทธิ์

ล่าสุดเมื่อเวเลา 8.05 น. มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 1,289,843 ราย สิทธิ์คงเหลือ 8,710,157 สิทธิ์ 

จำนวนสิทธิ์คงเหลือโครงการคนละครึ่ง ณ เวลา 8.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2563

โครงการคนละครึ่งเป็นโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปผ่านฝ่ายของผู้ซื้อ 50% โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท

คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง"

  • มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
  • มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันลงทะเบียน
  • เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  • ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
  • ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563
  • มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยกระบวนการยืนยันตัวตนเพื่อใช้บริการแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (รวมทั้ง G-wallet ในบริการแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”) ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งเป็นผู้จัดทำระบบให้รัฐและเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตนดังกล่าวกำหนด

โครงการ "คนละครึ่ง" รัฐจะสนับสนุนเงินแก่ประชาชนในการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของราคาสุทธิในใบเสร็จรับเงิน โดยรัฐจะชำระเงินดังกล่าวให้แก่ร้านค้าโดยตรง ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • ประชาชนต้องชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป ให้แก่ร้านค้าผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
  • จำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนให้ต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนจะไม่เกินกว่า 150 บาทต่อวัน และไม่เกินกว่า 3,000 บาทรวมตลอดทั้งโครงการฯ
  • ค่าสินค้า เครื่องดื่ม หรืออาหาร ที่รัฐสนับสนุนเงิน ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น และบริการต่าง ๆ
  • ประชาชนจะต้องใช้สิทธิภายใน 14 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับข้อความสั้น (SMS) แจ้งว่าได้รับสิทธิ หากไม่ใช้สิทธิภายในเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก ในกรณีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จก่อนวันที่โครงการฯ เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ (23 ตุลาคม 2563) ระยะเวลาดังกล่าวจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่โครงการฯ เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ
  •  แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน

 

รัฐจะสนับสนุนเงินในโครงการ "คนละครึ่ง" รวมตลอดระยะเวลาโครงการฯ ไม่เกิน 10 ล้านหมายเลขประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนสิทธิได้ในภายหลัง
 

การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิโครงการ "คนละครึ่ง" จะพิจารณาเมื่อประชาชนได้รับสิทธิ ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการฯ