รัฐบาลเปิดลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเบี้ยผู้สูงอายุรอบใหม่แล้ว เช็กได้ที่นี่

06 พ.ย. 2563 | 02:19 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2563 | 09:43 น.

ข่าวดี รัฐบาลเปิดลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของปี 64 รายใหม่แล้ว เช็กรายละเอียดได้ที่นี่

6 พฤศจิกายน 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย รัฐบาลโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2563 และเดือนมกราคม – กันยายน 2564 สำหรับผู้สูงอายุรายใหม่ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว

 

และผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2565 โดยนับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2565 ต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505 เนื่องจากผู้สูงอายุที่เกิดตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2505 – 1 ตุลาคม 2505 เป็นผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ คือ เดือนตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ 2566 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมบัญชีกลางพร้อมแล้วโอนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเบี้ยคนพิการ

สถ.แจงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-คนพิการ โอนถึงมือประชาชนแน่

เปิดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 

กรมบัญชีกลางแจงทุกประเด็นจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ-ความพิการล่าช้า

 

ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุผู้สูงอายุที่เกิดตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2505 – 1 ตุลาคม 2505 สามารถลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

 

เอกสารหลักฐานประกอบแบบคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มีดังนี้

 

-บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย

 

-ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน

 

-สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร

 

กรณีขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้

 

-รับเงินสดด้วยตนเอง

 

-รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ

 

-โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ

 

-โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ

 

ทั้งนี้ สามารถยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้

สำหรับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554 เห็นชอบจัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันได ดังนี้

 

-ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 - 69 ปี จะได้รับ 600 บาท

 

-ผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 - 79 ปี จะได้รับ 700 บาท

 

-ผู้สูงอายุที่มีอายุ 80 - 89 ปี จะได้รับ 800 บาท

 

-ผู้สูงอายุที่มี 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท 

 

ทั้งนี้ เป็นการสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ ให้กับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย รวม 66,016,930,800 บาท เพื่อจ่ายเป็นเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุรวมทั้งสิ้น 8,296,573 คน โดยไม่รวมเทศบาลนครและเทศบาลเมือง จำนวน 214 แห่ง ที่เป็นหน่วยรับงบประมาณตรง โฆษกรัฐบาลกล่าว