11 พฤศจิกายน 2563 การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง รอบ 2 ผ่าน www.คนละครึ่ง.com เสร็จสิ้นลงอย่างรวดเร็ว ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" ของธนาคารกรุงไทย เพื่อเปิดใช้ G-Wallet รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล มีรายละเอียดง่ายๆดังนี้
วิธีติดตั้ง แอป "เป๋าตัง"
1.เปิดแอปฯ APP Store หรือ Google Play หรือ Play Store รองรับโทรศัพท์ที่ใช้ Android 5.0+ ขึ้นไป หรือ iPhone ที่มี iOS 9.0+ ขึ้นไป
2.พิมพ์ค้นหา "เป๋าตัง" ในช่องค้นหา
3. ดาวน์โหลด แอป "เป๋าตัง"
3. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ เลือก GET หรือ เลือก ติดตั้ง
4. ติดตั้งเสร็จให้กรอก เบอร์โทรศัพท์มือถือ
5. ยืนยัน OTP 6 หลักที่ได้รับจาก SMS ตามเบอร์ที่กรอกในหน้าแรก
6. กดเลือกยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ และกด ตกลง
7. ระบุ PIN เป็นตัวเลข 6 หลักเป็นรหัสที่ต้องใช้ในการทำรายการทุกครั้ง
8.ยืนยันการตั้งค่ารหัส PIN 6 หลัก
วิธีผูกบัญชี หรือเปิด G-Wallet
1. เข้าไปที่แอป "เป๋าตัง" เลือก G-Wallet
2. กดเข้าใช้งาน G-Wallet
3. กดยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข G-Wallet การให้ความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคล
4.เลือกวิธียืนยันตัวตน มี 2 ตัวเลือก ผู้มีบัญชีธนาคารกรุงไทย กับ บัตราประชาชน
-กรณีผู้มีบัญชีธนาคารกรุงไทยให้กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่าน
-กรณีบัตรประชาชน ให้เตรียมบัตรประชาชน เพื่อถ่ายรูปบัตร เสร็จแล้วก็จะต้องกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุลเป็นภาษาไทย จากนั้นกดตกลง ระบบก็จะส่งรหัส OTP มาให้ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ เมื่อกรอกเสร็จก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการสแกนใบหน้า เสร็จแล้วรอระบบตอบกลับ
กรณีกรณีไม่สามารถยืนยันตัวตนผ่าน“แอปเป๋าตัง” ให้ติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทยทุกแห่งทั่วประเทศหรือ ไปที่ "ATM กรุงไทย ยืนยันตัวตน"
วิธียืนยันตัวตนผ่านตู้ "ATM กรุงไทย ยืนยันตัวตน"
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไม่ทันล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ในเบื้องต้นจะขยายเวลาโครงการจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ออกไปถึงช่วงต้นปี 2564 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่มากขึ้น เพราะได้มีการพิสูจน์แล้วว่าโครงการดังกล่าวช่วยลดค่าครองชีพที่ถือเป็นประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก ขณะที่ร้านค้ามียอดขายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าขนาดย่อย ร้านอาหารขนาดเล็ก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในภาวะที่การท่องเที่ยวยังอ่อนแอ
กระทรวงการคลังยืนยันว่ามีงบประมาณที่จะใช้ในโครงการคนละครึ่งเพียงพอ เพราะสามารถนำเม็ดเงินจากเม็ดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของพ.ร.ก.กู้เงินมาใช้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีเม็ดเงินเหลือมากกว่า 200,000 ล้านบาท จากทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งสิ้น 400,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้จะต้องจัดทำรายละเอียดและเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ ที่มีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาต่อไป