17 พฤศจิกายน 2563 ความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือ "ประกันราคาข้าว" ปี 2563/64 (รอบที่ 1) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยังคงทยอยจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาข้าวให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 18,096 ล้านบาท อย่างต่อเนื่อง โดยนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาข้าว ธ.ก.ส. จะทยอยจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจนครบ
เกษตรกรที่จะได้รับเงินส่วนต่างประกันราคาข้าวจากโครงการประกันรายได้ข้าว จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย
เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร สามารถตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือน ได้ที่ http://farmer.doae.go.th/ หรือ คลิกที่นี่
เมื่อเข้าไปแล้วให้กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เสร็จแล้วกดค้นหา ระบบก็จะแจ้งว่าท่านได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 เรียบร้อยแล้วหรือไม่
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว กรมส่งเสริมการเกษตรจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียน จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวและคำนวณปริมาณผลผลิต โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิดคูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชย ส่งให้ ธ.ก.ส. เพื่อเป็นข้อมูลในการจ่ายเงินประกันราคาข้าว
จากนั้น ธ.ก.ส.จะดำเนินการจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบจากคณะอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายใต้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยล่าสุดคณะอนุกรรมการได้กำหนดราคาชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้ข้าวกับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงแล้ว 2 งวด เพื่อให้ธ.ก.ส.โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร ดังนี้
การชดเชยส่วนต่างราคาประกันรายได้ข้าวงวดแรก
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่จะได้รับเงินชดเชยส่วนต่างราคาประกันรายได้ข้าวงวดแรก ที่มีคุณสมบัติถูกต้องทั้งสิ้น 871,869 ราย คิดเป็นเงิน 9,298 ล้านบาท
การชดเชยส่วนต่างราคาประกันรายได้ข้าวงวดที่ 2
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่จะได้รับเงินชดเชยส่วนต่างราคาประกันรายได้ข้าวงวดแรก ที่มีคุณสมบัติถูกต้องทั้งสิ้น 1,546,711 ราย
เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินประกันราคาข้าวได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect
เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวด้วยตัวเอง ที่ chongkho.inbaac.com จากนั้นให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เสร็จแล้วกดค้นหา หากเงินเข้าระบบแล้วจะมีการแจ้งว่าโอนเรียบร้อยแล้ว แต่หากยังไม่เข้าให้รอข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่ง ธ.ก.ส.จะทำการโอนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วันทำการ
18 พฤศจิกายน 2563 ธ.ก.ส.ชี้แจงกรณีการโอนเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 งวดแรก เมื่อ 16 พ.ย. 2563 ไม่ครบหรือเกินกว่าจำนวนจริง จากข้อผิดพลาดของการสลับชนิดข้าวทำให้การคำนวณคลาดเคลื่อน โดยนายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยอมรับว่า ธ.ก.ส.ได้ตรวจพบข้อผิดพลาดในการคำนวณเงินชดเชยสลับชนิดข้าว กล่าวคือ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้าซึ่งได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 1,222.36 บาท กับข้าวหอมปทุมธานีที่ได้รับการชดเชยส่วนต่างตันละ 1,066.96 บาท จึงทำให้มีเกษตรกรจำนวน 409,917 ราย ซึ่งปลูกข้าวเจ้าและข้าวหอมปทุมธานีไม่ได้รับเงินตามจำนวนที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.ได้เร่งแก้ไขโดยการโอนเงินเพิ่มเติมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้าครบตามจำนวน ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 และมอบหมายให้สาขาในพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจแก่เกษตรกรในกรณีที่ต้องดึงเงินส่วนที่เกินคืนจากบัญชีเงินฝากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563