นายกฯยันรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยึดประเทศชาติ-ปชช.ได้ประโยชน์  

23 พ.ย. 2563 | 07:30 น.

นายกฯยันรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยึดประเทศชาติ-ประชาชนได้ประโยชน์  

23 พฤศจิกายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เกี่ยวกับความคืบหน้าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ในวันนี้ยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีการหารือในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนโดยรวมเป็นสำคัญ ที่จะต้องพิจารณาและฝากให้ผู้ที่วิพากวิจารณ์ไปดูว่า มีกี่ช่วง ช่วงที่ 1 และ 2 และ 3 ปัญหา คือใครจะทำ จะจ้างใคร และงบประมาณของกทม.มีหรือไม่ ที่มีปัญหาที่ขาดทุนเกิดจากอะไร ซึ่งไม่ได้เริ่มจากสมัยที่รัฐบาลนี้เข้ามาแต่อย่างใด 

นายกฯยันรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยึดประเทศชาติ-ปชช.ได้ประโยชน์  

 

“ต้องพิจารณาตลอดสายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและประชาชนได้ประโยชน์จากค่าโดยสารที่มันถูกลง ถ้าไปเปรียบเทียบกันสายอื่นก็คนละแบบกัน ทั้งนี้ ต้องดูหลักเกณฑ์ หลักการในการพิจารณาว่า ควรต้องทำอย่างไรในการแก้ปัญหา ไม่ใช่แก้ปัญหาวิธีนี้วิธีเดียว ต้องดูความเป็นมา หลักการและเหตุผลประกอบด้วย 

อย่างไรก็ดี วันนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงมหาดไทยที่จะทำข้อพิจารณาเพิ่มเติมขึ้นมา โดยการหารือร่วมกับหลายกระทรวงและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กทม. ก.คมนาคม รฟม. โดยปัญหาสำคัญของสายสีเขียว เป็นเรื่องของหนี้ระยะที่ 1 ที่ยังค้างอยู่ว่า จะทำอย่างไร  วันหน้าจะแก้ปัญหากันอย่างไร ฝากถึงผู้ที่ต้องการข้อเสนอแนะต่างๆนำมาเสนอรัฐบาลจะได้นำไปพิจารณา อยากให้เห็นใจรัฐบาลด้วย” 

 

สำหรับวันหยุดที่ผ่านมาก็ดีใจที่มีประชาชนเดินทางออกไปท่องเที่ยวกันมาก อยากฝากเรื่องของความระมัดระวังเรื่องของอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นด้วย รวมถึงสภาพอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งในเดือนหน้าก็จะมีวันหยุดต่อเนื่องอีก 4 วัน ช่วงก่อนปีใหม่และหลังวันปีใหม่ ขอให้วางแผนให้ดี ข้อสำคัญ คือ คนขับรถ การดื่มสุรา การใช้ความเร็ว กฎกติกา จราจร ในเรืองของความปลอดภัย ระบบเบรกต่างๆ  ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย อยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ซึ่งทุกอย่างก็อยู่ตามขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีการชุมนุมที่เกิดขึ้นว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์และหามาตรการทำอย่างไรจะไม่ให้ปะทะกัน บางครั้งก็เหมือนต้องการปะทะกัน ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ถ้าไม่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ก็ปะทะกับคนสองฝ่าย ซึ่งก็เคยมีบทเรียนมาแล้ว ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก 

 

เพราะฉะนั้น คนเป็นแกนนำก็ต้องรับผิดชอบดูแล และควบคุมให้ได้ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลดูแลม็อบทั้งสองฝ่ายและไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลก็ไม่ต้องการที่จะให้คนไทยมาทำร้ายกัน ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรงขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้เศรษฐกิจ ก็มีปัญหาอยู่แล้ว หลายอย่างกำลังขับเคลื่อนอยู่ และคนส่วนใหญ่ก็ยังประกอบอาชีพของเขากันอยู่ ส่วนหนึ่งที่ต้องการจะแก้ปัญหาทางการเมืองก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลก็ต้องดูว่า จะทำอย่างไรให้ทุกกลุ่มนั้นมีความสงบเรียบร้อย มีความพึงพอใจในการทำงาน รัฐบาลจะคิดเอาเองไม่ได้ ต้องอาศัยกฎหมาย อาศัยรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าจะทำอย่างไรตามกฎหมายเหล่านั้น