วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เป็นวันที่ต้องจับตา จากกรณีภาคีนักเรียน KKC และกลุ่มนักเรียนเลว ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ประกาศเชิญชวนนักเรียนใส่ “ชุดไปรเวท” ไปโรงเรียนในวันนี้ พร้อมกับประกาศรายชื่อโรงเรียนอย่างน้อย 23 โรงเรียน ที่จะปฏิบัติการในครั้งนี้
แต่ปรากฏว่ามีโรงเรียน 3 แห่งเป็นอย่างน้อยจาก 23 แห่ง ได้ออกประกาศของโรงเรียนอย่างเป็นทางการ แจ้งไปยังผู้ปกครอง นักเรียน และสาธารณชนให้ได้รับทราบ
โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
นายวิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อํานวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ลงนามใน ประกาศ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เรื่อง การแต่งเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ระบุว่า
ตามพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๕ ให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบ นักเรียน ลักษณะของเครื่องแบบนักเรียน วิธีการแต่ง เงื่อนไขในการแต่ง และการยกเว้นไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ นักเรียน และนักเรียนผู้ใดไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียนโดยไม่ได้รับยกเว้นตามวรรคสองอาจได้รับโทษทางวินัย ตามระเบียบที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด
จึงประกาศให้ นักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แต่งเครื่องแบบนักเรียนตามระเบียบปฏิบัติของลูกนดินทร กรณีที่ นักเรียนไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียนมาเรียนและต้องการเข้าเรียนในชั้นเรียนให้ปฏิบัติ ดังนี้
๑. ให้เชิญผู้ปกครองมาร่วมรับทราบปัญหาและดูแลนักเรียนในปกครอง
๒. พูดคุยชี้แจงทําความเข้าใจนักเรียนและผู้ปกครอง เรื่องความสําคัญของเครื่องแบบนักเรียนที่เป็นประโยชน์ในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน สามารถจําแนกนักเรียนจาก บุคคลภายนอกได้ชัดเจนและเป็นภาพลักษณ์ของนักเรียนในเครือบดินทรเดชา
๓. ขอความร่วมมือผู้ปกครองทุกท่านทําความเข้าใจกับนักเรียน การสวมใส่เครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นเกียรติและความภาคภูมิใจที่มีมายาวนาน จึงควร ธำรงรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีไว้สืบไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตาวันนี้ "กลุ่มนักเรียนเลว" ปลุกแนวร่วม 23 โรงเรียนฝืนกฎใส่ “ชุดไปรเวท”
สพฐ.ชี้นร.เจตนาใส่ชุดไปรเวทไปเรียนมีโทษกำหนดไว้แล้ว
เกาะติด #ม็อบ1ธันวา กลุ่มคณะราษฎรและกลุ่มต่างๆ
ทั้งนี้ ให้ครู ผู้ปกครองและสมาคมนักเรียนเก่าทุกคนร่วมกันดูแลนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ให้ปฏิบัติตนตามปรัชญา “ลูกบดินทรเป็นผู้ประพฤติดีและมีความรู้”
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓
โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์
โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ขอความร่วมมือ ท่านผู้ปกครองช่วยดูแลให้นักเรียนแต่งกายตาม ระเบียบของโรงเรียน มิเช่นนั้นทางฝ่ายปกครอง จําเป็นต้องเชิญผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้าน ในวันนั้นๆ
เครือข่ายผู้ปกครองฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ผู้ปกครองทราบโดยทั่วกัน
คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์
โรงเรียนหอวัง
นายประวัติ สุทธิประภา ผู้อํานวยการโรงเรียนหอวัง ลงนามใน ประกาศโรงเรียนหอวัง เรื่อง แนวปฏิบัติสําหรับครูในการดูแลนักเรียน ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ระบุว่า
เพื่อให้การดูแลนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีแนวปฏิบัติชัดเจนและให้การปฏิบัติตนของ นักเรียนเป็นไปด้วยความเหมาะสมอาศัยอํานาจระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบกับ บันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างโรงเรียนหอวังกับผู้ปกครองนักเรียน และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โรงเรียนหอวัง จึงกําหนดแนวปฏิบัติสําหรับครูในการดูแลนักเรียน ดังนี้
๑. ให้นักเรียนเข้า - ออก โรงเรียน ทางประตูรับเสด็จ (ถนนหอวัง) ประตูเดียว
๒. ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอก และ/หรือ ผู้ปกครอง เข้ามาในบริเวณโรงเรียน (ยกเว้นมาติดต่อราชการที่ได้รับการอนุญาตแล้ว)
๓. ครูเวรประจําวันปฏิบัติหน้าที่ ตามจุดที่ได้รับมอบหมาย ตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐ น.
๔. ดําเนินการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจล แอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัย ก่อนเข้าบริเวณ โรงเรียน
๕ ดูแลการแต่งกายของนักเรียนให้อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนหอวัง
๖. กรณีที่พบนักเรียนแต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบ/แนวปฏิบัติ/ข้อตกลงของโรงเรียน ครูเวรประจําวัน ครูที่ปรึกษา หรือครูผู้สอน ปฏิบัติดังนี้
๖.๑ ให้ครูที่พบนำนักเรียนไปที่หอประชุมโรงเรียน เพื่อรับฟังคําชี้แจงและทําความ เข้าใจกับนักเรียน
๖.๒ แจ้งผู้ปกครองและเชิญผู้ปกครองมารับทราบ เพื่อร่วมหาแนวทางดูแลช่วยเหลือ นักเรียน
๖.๓ ในกรณีที่นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติของโรงเรียนได้ ให้นักเรียนและผู้ปกครองลงชื่อยืนยัน รับรองข้อมูล ทั้งนี้ทางโรงเรียนจะประสานจัดหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ดูแลนักเรียนในด้านการเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้
ทั้งนี้ ขอให้ครูทุกคนรับทราบและถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓