วันที่ 3 ธ.ค.63 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุม พร้อมเปิดประชุมศูนย์บัญชาการการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2563 เพื่อประชุมติดตาม ประเมินสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่
ผลจากการประชุมในครั้งนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานสถานการณ์และความพร้อมของเครื่องจักรกลในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน และอพยพขนย้ายสิ่งของประชาชนให้ปลอดภัย รวมทั้งการคาดการณ์ระยะเวลาที่มวลน้ำจากจังหวัดนครศรีธรรมราชจะไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในอีก 60 ชั่วโมงข้างหน้า
ทั้งนี้คาดว่าจะมีปริมาณมวลน้ำเพิ่มขึ้น คืออำเภอพระแสง เคียนซา นาเดิม พุนพิน ที่จะมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง และอาจจะมีน้ำทะเลหนุน ขณะที่ อำเภอไชยา ท่าฉาง ท่าชนะ จะยังคงมีปริมาณฝนตกหนักและมีมวลน้ำจากอำเภอคีรีรัฐนิคม เข้ามาสมทบ
นายวิชวุทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลปริมาณมวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ได้ให้ชลประทานสุราษฎร์ธานี เตรียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 26 เครื่องเพื่อระบายมวลน้ำที่จะไหลมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด และให้ขอรับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำเข้ามาเสริมเพื่อจำกัดพื้นที่น้ำท่วมให้ลดลงโดยเร็ว
ในส่วนของเขื่อนรัชชประภาขณะนี้ไม่ได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อน ซึ่งปริมาณน้ำที่เพิ่มมาจากปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ หากไม่มีฝนตกปริมาณน้ำจะลดลง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สายด่วน-รวมเบอร์โทร-ศูนย์อพยพ ช่วยผู้เดือดร้อน น้ำท่วมนครศรีธรรมราช
ด่วน!สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่สุราษฏร์ธานี-นครศรีธรรมราช
ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานีลงพื้นที่ ช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม
เช็กด่วน พื้นที่เฝ้าระวังดินถล่ม -น้ำป่าไหลหลาก
ปภ.รายงานน้ำท่วมขังภาคใต้ 7 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
สำหรับเส้นทางดอนสัก -กาญจนดิษฐ์ มาบางช่วงที่ปริมาณน้ำสูงเกิน 30 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ แต่จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก แจ้งเส้นทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบเป็นระยะ ขณะที่โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ พื้นที่ ไชยา ท่าฉาง วิภาวดี ท่าชนะ ที่มีปริมาณฝนตกมาก ขอให้ทุกฝ่ายเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันในจังหวัด (3 ธ.ค.63) ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาปริมาณฝนมากที่สุดที่สถานีอุตุนิยมวิทยาสุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน วัดได้ 296 มิลลิเมตร , บ้านดินก้อง ต.วัง อ.ท่าชนะ วัดได้ 290 มิลลิเมตร และเทศบาลตำบลขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี วัดได้ 248 มิลลิเมตร
โดยสถานการณ์อุทกภัยช่วงวันที่ 29 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2563 เวลา 08.00 น. ตามที่ได้เกิด ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบ จำนวน 8 อำเภอ จำนวน 41 ตำบล 180 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 3,244 ครัวเรือน 9,775 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่ผู้เสียชีวิต
- อ.ดอนสัก จำนวน 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน 74 ครัวเรือน 225 คน
- อ.กาญจนดิษฐ์ จำนวน 9 ตำบล 58 หมู่บ้าน 325 คน 2,900 คน
- อ.วิภาวดี จำนวน 2 ตำบล 19 หมู่บ้าน 1,500 ครัวเรือน 2,200 คน
- อ.ท่าฉาง จำนวน 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 50 ครัวเรือน 160 คน
- อ.บ้านนาเดิม จำนวน 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน 500 ครัวเรือน 1,800 คน
- อ.เคียนซา จำนวน 2 ตำบล 11 หมู่บ้าน 125 ครัวเรือน 500 คน
- อ.ชัยบุรี จำนวน 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน 150 ครัวเรือน 450 คน
- อ.พุนพิน จำนวน 14 ตำบล 35 หมู่บ้าน 520 ครัวเรือน 1540 คน
สำหรับความเสียหายด้านต่างๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดถนนทางหลวงสาย 401 สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ช่วงหน้าโรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคกาญจนดิษฐ์ ได้มีน้ำท่วมไหลผ่านผิวถนนสูงกว่า 30 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ห้ามรถ 4 ล้อเล็ก รถจักรยานยนต์ขับผ่าน เนื่องจากมีความเสี่ยงอันตรายจากกระแสน้ำและมองไม่เห็นเส้นทาง
ส่วนที่บริเวณลานจอดรถฟรี โซนทางไปที่ทิ้งขยะสนามบินสุราษฎร์ธานี ได้มีรถยนต์ของประชาชนที่นำไปจอดฟรี(ไม่ได้รับฝาก) ประมาณ 50 คัน มีระดับน้ำท่วมสูงกว่าครึ่งล้อรถ ได้มีการประกาศให้เจ้าของรถไปเคลื่อนย้ายรถออกโดยด่วน เนื่องจากมีแนวโน้มน้ำสูงขึ้น
นายวิชวุทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ ดอนสัก กาญจนดิษฐ์ วิภาวดี ท่าฉาง บ้านนาเดิม เคียนซา ชัยบุรี และอ.พุนพิน ได้สั่งการให้ทุกอำเภอดูแลความปลอดภัยประชาชนเป็นหลักก่อน จุดใดมีความเสี่ยงให้อพยพได้ทันทีและส่งกำลังทหาร อพปร.ร่วมกับกู้ภัยมูลนิธิเข้าช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง โดยส่งรถปฎิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 4 คันเข้าพื้นที่ อ.ดอนสักและ อ.กาญจนดิษฐ์ ส่วนพื้นที่อื่นจะทยอยเข้าไป
" ทางจังหวัดขอแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังฝนตกหนักคลื่นลมแรง น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง ดินถล่ม และคลื่นลมแรงในระยะ 3-4 วันนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. - 3 ธ.ค.63 โดยเน้นย้ำให้แจ้งเตือนราษฎร ห้ามขับรถผ่านเส้นทางที่เกิดน้ำหลากหรือน้ำท่วมขังสูงโดยเด็ดขาด และการสัญจรทางน้ำให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้ง "
ที่มา : PR.Surat สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี