"หมอธีระ"เสนอ 4 แนวคิดสกัดโควิดระบาดรอบ 2

03 ธ.ค. 2563 | 09:17 น.

"หมอธีระ" เผย ไทยต้องเปลี่ยนแนวคิดในการรับมือ "โควิด-19" พร้อมเน้นย้ำขยายระบบบริการตรวจให้มากขึ้นและครอบคลุมเพื่อสกัดการแพร่ระบาดซ้ำ

วันที่ 3 ธันวาคม 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทย โดยได้แนะนำแนวทาง 4 ข้อเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาด ส่วนเนื้อหาใจความของโพสต์ทั้งหมดมีดังต่อนี้ไปนี้ 


"ถ้าไม่สู้สุดหัวใจตอนนี้...ก็รอวันจบ"


การเงื้อง่าราคาแพง ออกมาตรการไล่ตามปัญหา จะมีโอกาสพ่ายการศึกได้ในไม่ช้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนแนวคิดในการสู้ศึก


หนึ่ง ปรับเกณฑ์การตรวจคัดกรองโควิดใหม่ โดยอนุญาตให้ทุกคน ที่มีประวัติเสี่ยง สามารถเข้าถึงการตรวจได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการ หรือหากมีอาการที่คล้ายไข้หวัดก็สามารถตรวจได้เลย


สอง ปรับเกณฑ์ให้ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาล และต้องทำการผ่าตัดหรือเข้านอนโรงพยาบาล ควรได้รับการตรวจโควิดทุกราย


สาม ขยายจุดบริการตรวจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ หากทรัพยากรไม่พอ ให้ครอบคลุมพื้นที่ชายแดน และเขตเมืองในจังหวัดต่างๆ ทั้งในรูปแบบสถานพยาบาล และแบบอื่น เช่น โมบายยูนิต บูธ คลินิก ฯลฯ โดยจัดระบบจัดเก็บ/ส่งต่อสิ่งส่งตรวจไปยังแหล่งรับตรวจ 


สี่ ออกแคมเปญรณรงค์ให้ทราบพื้นที่เสี่ยง ลด ละ เลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงโดยไม่จำเป็น และประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ นั้นร่วมกันป้องกันพื้นที่ของตนเองไม่ให้เกิดการระบาด โดยการใส่หน้ากาก 100% ล้างมือ อยู่ห่างๆ และจำกัดการบริการในแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง ยอมลำบากสักสองสัปดาห์ ดีกว่าลำบากระยะยาว


หากเหลียวมองสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อตอนนี้ เป็นเลขสองหลักมา 5 วันติดกันแล้ว เป็นครั้งแรกนับจาก 27 เมษายน 2563


วินาทีนี้ เชื้อไฟของการระบาดมีพร้อมแล้ว ทั้งเคสติดเชื้อที่มีอาการ ประวัติตะลอนไปทั่วทั้งบนบก บนอากาศ ทั้งกลางวันกลางคืน ทั้งแหล่งท่องเที่ยวโล่งแจ้ง และสถานบันเทิงเสี่ยงสูง พร้อมพฤติกรรมที่ไม่ป้องกันตัวหลายรูปแบบ...


เหลือเพียง รอให้มีสะเก็ดไฟกระเด็นมาลงที่เชื้อเท่านั้น


สิ่งที่เราทำได้คือ ต้องสู้ยิบตา ป้องกันให้เต็มที่ 
 

รัฐควรสังคายนานโยบายและมาตรการต่างๆ ให้ถูกทิศถูกทาง ไม่ไล่ตามปัญหา และไม่รนหาความเสี่ยงมาเข้าประเทศ โยนความคิดลดวันกักตัว กักบ้างไม่กักบ้าง หรือไม่กักตัวลงถังขยะ ชะลอแนวคิดการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศเพื่อหาเงิน


ส่วนประชาชนอย่างพวกเรา ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจรเสี่ยงสูง เป็นหูเป็นตาสอดส่องสิ่งรอบตัวหรือคนรอบข้าง หากสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา


ตอนนี้เสี่ยงสูงที่จะระบาดซ้ำ...ต้องช่วยกันสู้ ไม่รอวันจบ


เราต้องอยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน...

นอกจากนั้นแล้วยังโพสต์ข้อความเพิ่มเติมบอกเล่าว่า "ข่าวบอกว่า คนไปขอตรวจ 200 คนที่จังหวัดหนึ่ง แต่ตรวจได้แค่ 30 คน ที่เหลือต้องรอคิวนัดมาตรวจวันอื่น"


หากเป็นจริง...นี่คือหลักฐานพิสูจน์ว่า ระบบที่การเมืองและลูกน้องบอกว่าพร้อมและเอาอยู่นั้น มันไม่ใช่เลย


คิดไหมว่า การไม่สามารถรองรับได้ จนต้องให้กลับไปนั้น วันเวลาที่ผ่านไปจะมีโอกาสแพร่แก่คนอื่นได้เช่นกัน


นี่คือสิ่งที่พยายามเตือนมาเสมอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาว่า ต้องขยายระบบบริการตรวจให้มากขึ้น ครอบคลุม เพื่อรับมือเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่อการระบาดซ้ำ


ไม่ต้องไปโทษจังหวัด แต่คนที่รับผิดชอบคือส่วนกลางครับ


เอาแต่อวดว่า พร้อมทั้งคนเงินของหยูกยา ระบาดมาเอาอยู่ มุ่งแต่ชงหาเงินผ่านการรับต่างชาติเข้าประเทศ โดยหารู้ไม่ว่าศักยภาพที่มีนั้นจำกัดยิ่งนัก


ระลอกแรกก็ลำบากมาแล้วในสามเดือนแรก ดีที่ทุกคนในประเทศช่วยกันกู้คืนมาทัน จะมาอีหรอบเดิม ควรสังคายนาวงอำนาจนโยบายสุขภาพท่องเที่ยวเดินทางครับ