วันที่ 3 ธ.ค. 63 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 โดยระบุว่า ด้วยปรากฎว่าพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายที่ 42, 43 และ 44 ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคม 2563 ซึ่งผลการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดได้ติดเชื้อและเดินทางมาจากต่างประเทศ ปัจจุบันได้รับการรักษาตัวและมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
ข้อมูลจากการติดตามผู้สัมผัสและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ณ วันที่ 2 ธ.ค. 2563 เวลา 10.00 น. พบว่าได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้แล้ว 88 คน จากทั้งหมด 90 คน ทราบผลตรวจแล้วเป็นลบทั้งหมด โดยทุกคนอาการปกติดี จะได้รับการกักกันภายในสถานที่ที่กำหนดและติดตามโดยเจ้าหน้าที่จนครบ 14 วัน
นอกจากนั้นยังได้ตรวจผู้สัมผัสในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำและกลุ่มอื่น ๆ ร่วมด้วยไปแล้วทั้งสิ้นรวม 523 ราย ทั้งหมดผลเป็นลบ จากข้อมูลดังกล่าวทำให้มั่นใจได้ว่า
ขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานของการแพร่กระจายเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทางคณะกรรมการโรคติดต่อจะได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงอย่างใกล้ชิดตลอดระยะจนครบ 14 วันหลังจากการสัมผัสวันสุดท้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"โควิดเชียงใหม่"ยังวุ่น!เตือนผู้ไปสถานที่เสี่ยงให้สังเกตอาการ14วัน
จับตาโรงแรม “1G1 HOTEL” ท่าขี้เหล็ก ...ต้นตอแพร่โควิด
"เชียงราย" พบผู้หลบหนีเข้าเมืองติดโควิดรายที่ 7 มีประวัติเที่ยว "ฟาร์มเฟสติวัล"
กระทรวงสาธารณสุข ประกาศตามหา คนไปสิงห์ปาร์ค ที่จังหวัดเชียงราย
ม.รังสิต'กักนศ.'ขึ้นรถตู้คันเดียวกับหญิงติดโควิด
"หมอธีระ"เสนอ 4 แนวคิดสกัดโควิดระบาดรอบ 2
นายเจริญฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ยกระดับมาตรการในการป้องกันโรคทั้งจังหวัด โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคทุกระดับ ออกตรวจตรา ติดตาม และกำชับให้สถานประกอบการทุกประเภทในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองผู้เข้าไปใช้บริการในสถานประกอบการของตน
โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ และการลงทะเบียนในแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” โดยรายงานผลการปฏิบัติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ทราบทุกวัน พร้อมทั้งสุ่มตรวจโรคโควิด-19 ในเชิงรุกสำหรับพนักงานที่มีโอกาสสัมผัสกับบุคคลอื่นในสถานประกอบการทุกแห่ง
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้อาสาสมัครโควิดหมู่บ้าน - ชุมชน ค้นหาผู้เข้าไปในหมู่บ้านหรือชุมชนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สั่งการให้บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อำเภอชายแดนทุกอำเภอ จัดชุดลาดตระเวนช่องทางเข้าออกธรรมชาติตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และจังหวัดเชียงใหม่ได้หารือกับภาคเอกชน ในการร่วมกันวางมาตรการและแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
"เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ดำเนินการตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) อย่างเข้มงวดในทุกสถานที่ และการดูแลตนเองของประชาชน"