ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปสถานการณ์อุทกภัย-น้ำท่วมนครศรีธรรมราช ณ วันที่ 3 ธันวาคม พบว่า กระแสน้ำและความรุนแรงของน้ำไหลหลาก อุทกภัยและวาตภัยสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างครอบคลุมทั้ง 23 อำเภอของจังหวัด มีพื้นที่ประสบภัย รวม 145 ตำบล 1,037 หมู่บ้าน 114 ชุมชน และมีตัวเลขผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือและคลี่คลายสถานการณ์
โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีความปลอดภัยในชีวิตมีอาหารและน้ำดื่ม ทั้งในส่วนของผู้ประสบภัยที่พักอาศัยในศูนย์อพยพต่างๆ และผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกส่วนได้เร่งลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหาย
ส่วนแนวทางการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้ง การซ่อมสร้าง การดูแล และฟื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบจุดที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงและครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด อาจจะมีการตกหล่นเรื่องการช่วยเหลือ
หากประชาชนเดือดร้อนและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือพบเจอผู้ประสบภัยที่เดือดร้อนและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ให้แจ้งผู้นำท้องถิ่นท้องที่ หน่วยงาน หรือองค์กรที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อจะได้ดำเนินการช่วยเหลือได้ทันทีต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยเวียตเจ็ท ตั้งจุดบริจาค ขนส่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยในจ.นครศรีธรรมราช
เตือน 14 จังหวัด ใต้ “ฝนถล่ม" ต่อเนื่องลากยาวถึง ก.พ. ปี64
จ่อ ประกาศสาธารณภัยระดับ 3 "น้ำท่วมภาคใต้" 2.8 แสน ครัวเรือนเดือดร้อน
รวมเบอร์โทร-สายด่วน-ศูนย์อพยพ ช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมนครศรีธรรมราชและพื้นที่ภาคใต้
เตือน "ลุ่มน้ำปัตตานี" 4อำเภอ เตรียมยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำท่วม
ขณะที่ความคืบหน้าด้านการช่วยเหลือประชาชน ที่บริเวณสะพานวัดวังไทร ทางเข้าหมู่บ้านคีรีวง พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าสำรวจบริเวณสะพานวัดวังไทร ซึ่งเป็นเส้นทางที่มุ่งเข้าสู่หมู่บ้านคีรีวง สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
เนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.63 ได้เกิดมวลน้ำก้อนใหญ่จากบริเวณต้นน้ำเทือกเขาหลวงไหลหลากผ่านธารน้ำท่าดีและสะพานดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นสะพานคอนกรีต ความยาวประมาณ 80 เมตร กว้าง 5 เมตร ที่แม้จะมีการก่อสร้างอย่างดีแต่ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกของมวลน้ำที่ไหลหลากเข้าท่วมสะพานอย่างรุนแรง ส่งผลให้ตัวสะพานขาดชำรุดเป็นระยะทางประมาณ 40 เมตร ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้ มีชาวบ้านติดค้างอยู่ในพื้นที่กว่า 3 พันคน ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลกว่าเดิมกว่า 5 กม.
พันเอกยุทธนาม ม่วงงาม ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 กล่าวว่า ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ ประชาชนในพื้นที่ และกำลังพลทหาร เร่งเข้าสำรวจพื้นที่ พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านเพื่อให้ได้ใช้เส้นทางสัญจรตามปกติโดยเร็ว ในเบื้องต้นจะมีการสร้างสะพานแบริ่ง หรือสะพานประกอบขึ้นจากโครงเหล็กเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน
ส่วนความเสียหายอื่นในพื้นที่โดยเฉพาะบ้านเรือนของประชาชนที่พังเสียหายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าพื้นที่สำรวจ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการใช้เส้นทางและเพิ่งจะสามารถเดินทางเข้าพื้นที่ได้วันนี้ ซึ่งทางคณะได้สำรวจความเสียหาย ประเมินเตรียมการช่วยเหลือ พร้อมนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย
ด้านนายวีระศักดิ์ บัวศรี นายอำเภอลานสกา กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดจากน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นที่/หมู่บ้านดังกล่าวได้เนื่องจากความเสียหายได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและมีอีกหลายพื้นที่ที่มีความเสียหายและยังไม่สามารถเข้าสำรวจได้ โดยทุกฝ่ายในพื้นที่ได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว
ที่มา:ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช