"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 ทะลุ 65 ล้านคน เคสลักลอบเข้าเมือง ทำกิจกรรมเสี่ยงหลากหลาย

04 ธ.ค. 2563 | 02:02 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2563 | 09:10 น.

"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 65 ล้านคน ขณะที่อิหร่านติดเชื้อเกินล้านคนเป็นประเทศที่ 14 เผยเคสลักลอบเข้าเมือง ทำกิจกรรมเสี่ยงหลากหลาย

วันที่ 4 ธันวาคม  2563  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด 4 ธันวาคม 2563 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  ระบุว่า  ทะลุ 65 ล้าน โดยมีคนตายเกิน 1.5 ล้านคนแล้ว ในขณะที่อิหร่านติดเกินล้านเป็นประเทศที่ 14

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 690,188 คน รวมแล้วตอนนี้ 65,417,539 คน ตายเพิ่มอีกมากถึง 12,706 คน ยอดตายรวม 1,509,427 คน

 

อเมริกา ติดเชิ้อเพิ่มอีกสูงถึง 216,883 คน รวม 14,481,511 คน ตายเพิ่มอีก 2,791 คน ยอดตายรวม 282,056 คน ทั้งนี้หากยังมีจำนวนติดเชื้อเพิ่มมากแบบนี้ต่อเนื่อง อาจเกินกำลังของระบบสุขภาพ

 

อินเดีย ติดเพิ่ม 33,270 คน รวม 9,564,565 คน

 

บราซิล ติดเพิ่ม 50,434 คน รวม 6,487,084 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 65.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 6.2 แสนราย

ตำรวจสากลเตือน ระวัง "วัคซีนปลอม" ระบาดไวยิ่งกว่าไวรัส

ผู้ว่าฯประกาศชัดยังไม่มีหลักฐานการแพร่กระจายเชื้อ "โควิดเชียงใหม่"

"โควิดเชียงใหม่"ยังวุ่น!เตือนผู้ไปสถานที่เสี่ยงให้สังเกตอาการ14วัน

 

รัสเซีย ติดเพิ่มอีก 28,145 คน รวม 2,375,546 คน

 

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 12,696 คน รวม 2,257,331 คน

 

อันดับ 6-10 ตอนนี้เป็น สเปน สหราชอาณาจักร อิตาลี อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน

 

เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สวีเดน โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน ตุรกี บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเมียนมาร์ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น

 

แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชียยังคงน่าเป็นห่วงมาก ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งเดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ ลัตเวีย เอสโตเนีย จอร์เจีย ฯลฯ ซึ่งทำให้มีโอกาสเป็นศูนย์กลางการระบาดในระยะถัดไปได้

เกาหลีใต้ติดกันเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบถึงเฉียดร้อย ในขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

 

...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 1,418 คน ตายเพิ่มอีก 30 คน ตอนนี้ยอดรวม 95,018 คน ตายไป 2,028 คน อัตราตายตอนนี้ 2.1%

 

ตอนนี้มีหลายประเทศเริ่มเห็นการระบาดซ้ำระลอกสอง เช่นแถบบอลติก และยูเรเชีย

 

ในขณะที่บางประเทศเข้าสู่ระลอกสาม ดังที่เราทราบกันก่อนหน้านี้ ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

 

ไต้หวัน เดิมคุมโรคได้ดีมาก และยอดสะสมน้อยกว่าไทย แต่ตอนนี้ดูแนวโน้มตั้งแต่ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีการติดเชื้อสูงขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าถ้าอีกสองสัปดาห์เป็นไปในลักษณะนี้ อาจเข้าสู่การระบาดระลอกสองจริง

 

สำหรับเมืองไทย วิชาการแพทย์นั้นประเมินได้ชัดเจนว่า จิ๊กซอว์ครบพร้อมกับการระบาดในวงกว้างได้ทุกเมื่อ เพราะเรามีเคสลักลอบเข้าเมืองจำนวนหลักสิบ ตะลอนกระจายไปทั่ว ไม่ป้องกันตัว ทำกิจกรรมเสี่ยงมากมายหลากหลาย แถมส่วนใหญ่ดันเป็นคนที่ติดเชื้อมีอาการ ซึ่งแปลว่าในร่างกายจะมีไวรัสสูงกว่าคนไม่มีอาการ ง่ายต่อการแพร่เชื้อให้คนอื่น

ล่าสุดเคสเชียงรายที่ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศ ก็เกิดจากการติดต่อ ให้ที่พัก คลุกคลี และไปกินไปเที่ยวพร้อมกับกลุ่มผู้ติดเชื้อ ถือเป็นการยืนยันชัดเจนว่า"โควิดติดง่าย ติดแน่ แพร่ได้ หากไม่ป้องกัน"

 

โควิดนั้นไม่ใช่หวัดธรรมดา ติดแล้วตายได้ ดังที่เห็นตามสถิติที่บอกทุกวัน

 

โควิดนั้นติดแล้ว ต่อให้รักษาจนหาย ก็จะมีอาการผิดปกติคงค้างในระยะยาว ได้ถึง 30-40% ทั้งเหนื่อยล้าง่าย หายใจลำบาก ปวดข้อ รวมถึงอาการอื่นๆ อีกหลายหลาก ดังนั้นไม่ติดจะดีที่สุด การโฆษณาการเมืองว่ามียารักษา พร้อมรับมือนั้นจะเป็นการสร้างความประมาทให้แก่ประชาชน และประเมินผลกระทบจากการติดเชื้อต่ำกว่าที่เป็นจริง

 

สถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องประกาศให้ประชาชนทราบว่าพื้นที่ต่างๆ เป็นพื้นที่เสี่ยง ควรลด ละ เลี่ยงที่จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ยกเว้นจะจำเป็นจริงๆ เท่านั้น

 

ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต้องตระหนัก และร่วมมือกันเต็มที่เพื่อป้องกันบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ไม่ให้เกิดการระบาดวงกว้าง ใส่หน้ากาก 100% ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆ กัน พบกันน้อยลงสั้นลง จำกัดธุรกิจบริการที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในพื้นที่ และคอยสังเกตอาการตนเอง หากไม่สบาย ต้องรีบไปตรวจรักษา ยอมลำบากสองสัปดาห์เพื่อจะได้ไม่ลำบากระยะยาว

 

เดือนนี้เดือนเทศกาล คนวางแผนไปเที่ยวกันเยอะ ส่วนตัวแล้วผมไม่แนะนำให้ไปในเที่ยวในพื้นที่เสี่ยง หากจำเป็นต้องไป ก็ขอให้ไปอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ หากไปที่ใดแล้วคนเยอะ ควรเปลี่ยนไปที่อื่นแทนหากเป็นไปได้ และหลังกลับจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว คอยสังเกตอาการตนเองสองสัปดาห์ ถ้าไม่สบายต้องไปตรวจ