เปิด Timeline ผู้ติดเชื้อโควิด 2 ราย ในกทม. ไปไหนมาบ้าง เช็กได้ที่นี่

06 ธ.ค. 2563 | 07:08 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2563 | 07:22 น.

กรมควบคุมโรค เปิดเผยรายละเอียดการเดินทาง หรือ Timeline ของผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศ รายใหม่ 2 ราย ในกทม.

วันที่ 6 ธ.ค. 63 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2 รายในกรุงเทพมหานคร

 

คือ หญิงไทยอายุ 26 ปี มีประวัติร่วมกับชายไทยอายุ 30 ปี ซึ่งเป็นสาวสอง(แถลงข่าววันที่ 5 ธ.ค.) โดยทั้งสองคนเดินทางไป จ.เชียงราย 6 พ.ย.และข้ามไปสถานบันเทิงท่าขี้เหล็กในช่วงวันที่ 6-27 พ.ย. และกลับมาไทยวันที่ 27 พ.ย.พักด้วยกัน และวันที่ 28 พ.ย.ซื้อของที่ตลาด และเย็นไปเดินถนนคนเดิน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดในกทม. 2 ราย

'รมต.อินเดีย'ติดโควิด  แม้เป็นผู้ร่วมทดลองรับวัคซีนได้ไม่นาน

ยอดโควิด 6 ธ.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย จากในประเทศ 2 ราย ต่างประเทศ 12 ราย

หนี“โควิดท่าขี้เหล็ก”ทะยอยลงทะเบียนขอกลับไทยต่อเนื่อง

“เชียงราย”พบผู้ติดโควิดเพิ่ม 9 รายมาจากเมียนมา

 

ส่วนวันที่ 29 ผู้ชายให้ข้อมูลว่าไปเดินที่วัดพระธาตุดอยเวา และกินข้าวร้านตามสั่ง ในตลาดแม่สาย ซึ่งไปพร้อมกับผู้หญิง โดยผู้หญิงเดินทางกลับ กทม.โดยสายการบินไทยสไมล์ WE137 และใช้บริการแท็กซี่สนามบินไปส่งโรงแรมที่ กทม. ส่วนผู้ชายวันที่ 30 พ.ย. อยู่ จ.เชียงราย แต่มีไข้ต่ำๆ ได้เรียกแท็กซี่ไปสนามบินเชียงราย แต่สวมหน้ากาก เพื่อเดินทางไปกทม.ด้วยสายการบินไทยไลออนแอร์ เที่ยวบิน SL545 เวลา 19.05-20.00 น. และเรียกแท็กซี่กลับบ้าน โดยทั้ง 2 คนเมื่อถึงกทม.(30 พ.ย.-3 ธ.ค.) อยู่ในที่พักเป็นส่วนใหญ่

โดยวันที่ 4 ธ.ค. ผู้ชายได้เดินทางมาตรวจเชื้อที่เวชศาสตร์เขตร้อน และพบเชื้อโควิด ส่วนเพื่อนผู้หญิงก็เดินทางไปเป็นเพื่อน แต่มีอาการวันรุ่งขึ้น โดยมาตรวจในวันที่ 5 ธ.ค. และพบเชื้อโควิด สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งสองรายนั้นพบ 15 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 10 ราย โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้สัมผัสในชุมชน 4 ราย คือ ที่เชียงราย 2 ราย และปทุมธานี 1 ราย ส่วนผู้สัมผัสในยานพาหนะมี 1 ราย คือ เชียงราย ที่เป็นคนขับแท็กซี่ไปสนามบิน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำอยู่ระหว่างเฝ้าระวัง

เปิด Timeline ผู้ติดเชื้อโควิด 2 ราย ในกทม. ไปไหนมาบ้าง เช็กได้ที่นี่

ส่วนกรณีผู้สัมผัสกับผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 51 ปี จ.สิงห์บุรี มีผู้สัมผัสรวม 227 ราย พบกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง 32 ราย คือ ผู้ร่วมบ้าน 3 ราย มีสามี พ่อ แม่ผู้ป่วย เพื่อนร่วมงาน โรงงาน จ.อ่างทอง อีก 25 ราย ร้านตัดเสื้อ 1 ราย จนท.ประกันสังคมอ่างทอง 3 ราย ผลตรวจทั้งหมดเป็นลบ อยู่ระหว่างรอตรวจครั้งที่ 2 ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำมี 195 ราย อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง

สำหรับการนั่งบนเครื่องบินของผู้ป่วยอายุ 51 ปี เที่ยวบินนกแอร์ DD8717 วันที่ 28 พ.ย. 2563 พบว่าผู้ป่วยรายนี้นั่งไกลจากผู้ป่วยเคสพิจิตร ซึ่งถือว่านั่งไกลบนเครื่องบิน ห่างกัน 8 แถว โดยทุกคนสวมหน้ากากเมื่ออยู่บนเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่แม่ฟ้าหลวง จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยสิงห์บุรีอยู่ในพื้นที่เดียวกับผู้ป่วย จ.พิจิตร จากข้อมูลน่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งไปห้องน้ำเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติมว่า จุดเสี่ยงอยู่บริเวณใด

 

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ยังไม่อยู่ในการระบาดระลอกสอง เนื่องจากผู้ติดเชื้อเกือบทุกรายเดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน 2 รายที่ติดในประเทศไทยก็เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไม่มีการแพร่เชื้อต่อจากคนติดเชื้อในประเทศไปยังผู้อื่น ซึ่งถือว่าติดเชื้อจำกัดมาก อันนี้เราคาดอยู่แล้วว่าเป็นไปได้ ในกรณีนี้เราก็สามารถระบุต้นเหตุและแหล่งรับเชื้อได้ในระดับหนึ่ง และไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องที่ผู้เดินทางจากท่าขี้เหล็กกลับไปภูมิลำเนา” นพ.โสภณ กล่าว

 

เช็กด่วน สธ.แจ้งผู้โดยสาร 4 เที่ยวบิน ให้กักตัว-ตรวจหาเชื้อโควิด