23 ธันวาคม 2563 นายอาศิส พิทักษ์คุมผล จุฬาราชมนตรี ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ “โควิด-19” (ฉบับที่ 11/2563) ใจความว่า
ตามที่ได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วยนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น
สำนักจุฬาราชมนตรีใคร่ขอความร่วมมือมุสลิมทุกคนได้ยึดแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวด้วยความเคร่งครัด ดังต่อไปนี้
1. หลีกเลี่ยงการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือแล้วกล่าวสลามกันเท่านั้น
2. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือการคัดกรองผู้ป่วยในระบบทางเดินหายใจ เมื่อมีการรวมตัวกันเป็นจำนวนหลายคน ได้แก่ การร่วมละหมาดวันศุกร์ การละหมาดญะมาอะห์ การละหมาดญะนาซะห์ และการเรียนการสอนศาสนาภาคบังคับ (ฟัรฎูอีน) เป็นต้น
3. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขณะเข้าศาสนสถานและขณะปฏิบัติศาสนกิจ
4. เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร
5. ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
6. ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของศาสนสถานก่อนปฏิบัติศาสนกิจและภายหลังการปฏิบัติศาสนกิจ และเห็นควรให้เก็บพรมละหมาด (หรือทำความสะอาดแบบเข้มข้น) และให้นำผ้าปูละหมาดส่วนตัวมาใช้ และควรปิดเครื่องปรับอากาศ ให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
7. ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากศาสนสถานและหากเป็นไปได้ให้เพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด
8. หลีกเลี่ยงหรืองดการจัดกิจกรรมสาธารณกุศล การจัดค่ายอบรมเยาวชน การจัดประชุมสัมมนา หรือกิจกรรมอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องจัดกิจกรรม ให้ผู้จัดพิจารณาลดขนาดการจัดงานและจำกัดจำนวนคนที่จะเข้าร่วมเฉพาะเท่าที่จำเป็น โดยจะต้องเข้มงวดกวดขันให้มีการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และจะต้องส่งแผนการจัดงานและมาตรการควบคุมโรคต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย
9. หากพื้นที่ในชุมชนมัสยิดใดมีการระบาดเกิดขึ้น ให้อิหม่ามและคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดใช้ดุลยพินิจรณาประกาศงดการละหมาดที่มัสยิดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
การปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นถือเป็นความจำเป็นตามเจตนารมณ์สำคัญของบทบัญญัติศาสนาอิสลาม เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่ดีเป็นความโปรดปรานที่อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้แก่มนุษย์ทุกคน จึงจำเป็นต้องดูแลรักษาร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่องค์กร หน่วยงาน หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกำหนด เพื่อการรักษาไว้ ซึ่งชีวิตของตนเองและสังคมมนุษยชาติให้รอดปลอดภัยต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนมีความอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวข้างต้นให้ถือปฏิบัติจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติหรือจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563