เกษตรกร ได้เฮ! รับเงินส่วนต่าง “ประกันรายได้” งวด 2 ส่งท้ายปี

25 ธ.ค. 2563 | 04:28 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2563 | 12:03 น.

ชาวสวนยางได้เฮ ! "จุรินทร์" แจ้งเกษตรกร "รับส่วนต่างประกันรายได้" งวด 2 ส่งท้ายปี คาด "ธ.ก.ส." โอนเข้าบัญชีไม่เกินวันที่ 28 ธ.ค.นี้

25 ธันวาคม 2563 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้แจ้งเกษตรกรถึงสิทธิที่ได้รับต่อการออกประกาศของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เรื่อง กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 ปี 2563/64 รอบที่ 2 จากคณะกรรมการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยประกาศนี้ระบุถึงราคากลางอ้างอิงการขายตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง และหลังวันประกาศนี้แล้วขั้นตอนต่อไป คือ ภายใน 3 วันทำการทาง ธ.ก.ส.จะทำหน้าที่โอนเงินส่วนต่างงวดนี้เข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยางโดยตรงตามสิทธิที่ได้รับขณะนี้การยางฯส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส.ครบแล้วคาดว่า จะโอนไม่เกินวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ซึ่งทันเป็นของขวัญปีใหม่ชาวสวนยาง

 

สำหรับรายละเอียด คือ

  • ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคายางที่ประกันรายได้ 60.00 บาทต่อกิโลกรัม ราคากลางอ้างอิงการขาย 62.83 บาทต่อกิโลกรัม ด้วยราคากลางอ้างอิงสูงราคาประกันรายได้จึงไม่ต้องจ่ายส่วนต่างหรือชดเชย

 

  • น้ำยางสด (DRC 100%) ราคายางที่ประกันรายได้ 57.00 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคากลางอ้างอิงการขาย 49.83 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรจะได้รับชดเชย 7.17 บาทต่อกิโลกรัม

 

  • ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคายางที่ประกันรายได้ 23.00 บาทต่อกิโลกรัม ราคากลางอ้างอิงการขาย 19.35 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรจะได้รับชดเชย 3.65 บาทต่อกิโลกรัม สรุปคือได้รับส่วนต่างในยางพารา 2 ชนิดคือน้ำยางสดกับยางก้อนถ้วย

 

นางมัลลิกา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดีอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเกินราคาที่ประกันรายได้ไว้เช่นเดียวกันกับการจ่ายรอบที่แล้วซึ่งรอบที่แล้วนั้น นายจุรินทร์เป็นประธาน Kick off ไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 มีเกษตรกรได้รับส่วนต่างงวดแรก ตามเกณฑ์ที่รัฐให้นโยบายไว้โดยนโยบายนี้โดยรัฐบาลประกันรายได้ไว้ที่ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม โดยกำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ คือ ผลผลิตยางแห้ง (DRC 100%) จำนวนไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน และผลผลิตยางก้อนถ้วย (DRC 50%) จำนวนไม่เกิน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน

 

สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดยางได้แล้วรายละไม่เกิน 25 ไร่ มีสัดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างเจ้าของ 60% และคนกรีดยาง 40% ระยะเวลาโครงการปี2 คือระหว่างเดือนกันยายน 2563 – กันยายน 2564

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการเสริมมีส่วนสำคัญในการผลักดันด้านราคายางพาราให้สูงขึ้นและรัฐบาลก็ทำคู่ขนานกันไปกับโครงการประกันรายได้ เช่น มาตรการกำกับดูแลด้านปริมาณ โดยผู้ประกอบกิจการยางที่มีปริมาณการรับซื้อตั้งแต่เดือนละ 5,000 กก.ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ไป ปริมาณคงเหลือ และ สถานที่เก็บสินค้ายางพารา ตลอดจนให้จัดทำบัญชีคุมรายวัน มาตรการการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ ระหว่าง ต.ค. 62 - ก.ย. 65 มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ 5 โครงการ คือ

 

โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการรวบรวมยาง วงเงิน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ 1 เม.ย. 63 - 31 มี.ค. 64

 

โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 1 ก.ย. 57 - 31 ธ.ค. 67

 

โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง ชนิดยางแห้ง 20,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน ม.ค. 63 – ธ.ค. 64

 

โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงินสินเชื่อ 25,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ ปี 59 – 69 โดยสนับสนุนวงเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราร้อยละ 3 ไม่เกิน 600 ล้านบาท เป็นต้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร จ่ายส่วนต่าง "ประกันราคายางพารา" งวด2  ล่าสุด

เคลียร์ “เงินประกันรายได้ยางพารา” ได้รับสิทธิ์ แต่เงินไม่เข้า ได้รับเมื่อไร?

จ่ายจริง! "เงินประกันรายได้ยางพารา"ผู้ถือบัตรสีเขียวและสีชมพู