19 มีนาคม 2564 - มีรายงานว่าช่วงเย็นวันนี้ พลตำรวจเอกปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการประทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สั่งการนำกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ เข้าตรวจค้น ณ นาซ่าการ์เด้น ภายในซอย 20 มิถุนา 11 ย่านสุทธิสาร
หลังมีรายงานว่า สืบเนื่องจาก ภาวะวิกฤต เศรษฐกิจในช่วงโควิด ทำให้ประชาชนได้รับความลำบาก มาใช้จ่าย หมุนเวียนในครอบครัว จึงเป็นเหตุให้แอพลิเคชั่น เงินกู้นอกระบบ ระบาดอย่างหนัก อีกทั้งเมื่อลูกหนี้ ผิดนัดชำระ ก็จะมีการโทรไปข่มขู่และส่งSMS ประจานให้ได้รับความอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง โดย 1 ในนั้น เป็นดำเนินการผ่านแอพลิเคชั่น U Baht
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบภายหลัง ว่ามีการมาเช่าสำนักงาน ที่บริเวณชั้น 8 ของอาคารดังกล่าว จึงนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ และเฝ้าสะกดรอยดูพฤติกรรมาอย่างต่อเนื่อง
ภายในสำนักงานดังกล่าว พบเป็นการลักลอบประกอบธุรกิจแอปกู้เงินนอกระบบ มีการแบ่งซอย ห้องเป็น 6 ห้อง พบ ผู้บริหารชาวจีน จำนวน 2 ราย พนักงาน ทวงหนี้ (คนไทย) จำนวน 53 ราย และได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 62 เครื่อง และโทรศัพท์ที่ใช้ทวงหนี้ จำนวน 47 เครื่อง กำลังทวงหนี้ในแอพเคชั่นเงินกู้นอกระบบอยู่
จากการตรวจสอบทราบว่า สถานที่ดังกล่าวนี้นอกจากจะเป็นที่ตั้งของแอพลิเคชั่น U Baht แล้ว ยังมีแอพอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกจำนวน 10 แอพ ได้แก่.speed wallet , cash 24, .Marscash , .bee bath max @.cash 24 b.u-wallet o.yoo card e.cash map, .take cash ,.pp cash , lend cash และ เงินฟ้าผ่า
เบื้องต้นตรวจสอบพบข้อมูล ลูกหนี้ 8,600 กว่าราย มียอดเงินหมุนเวียน 20 ล้านกว่าบาทต่อวัน จากการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า มีคนไทยสัญชาติจีน2 คน คอยทำหน้าที่ เป็นผู้จัดการ และ ผ่ายเทคนิค คอยควบคุมดูแลพนักงาน ในส่วนคนไทยนั้นมีหัวหน้าคอยทำหน้าที่ บริหารจัดการ จำนวน3 คน ,รับสมัครพนักงาน จำนวน 2 คน และล่ามแปลภาษา จำนวน 2 คน จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสินจำนวน 9 ราย ประกอบด้วย
๑. MR.Zhag fei hong หรือ นาย จาง เฟย หงส์ อายุ ๓๐ ปี
๒. MR.Wez feng zhu หรือ นาย จู เว่ย ฟง อายุ ๓๙ ปี
๓. นายอชิรวีร์ สงวนนามสกุล อายุ ๒๘ ปี
๔. นายจิงแหย่ สงวนนามสกุล อายุ ๓๐ ปี
๕. น.ส.ดรุณี สงวนนามสกุล อายุ ๒๙ ปี
๖. นายวิษณุ สงวนนามสกุล อายุ ๓๔ ปี
๗. น.ส.ธีรดา สงวนนามสกุล อายุ ๒๒ ปี
๘. นายพชร สงวนนามสกุล อายุ ๓๑ ปี
๙. นายจิรวัฒน์ สงวนนามสกุล อายุ ๓๐ ปี
พร้อมตรวจยึด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 62 เครื่อง และโทรศัพท์ที่ใช้ทวงหนี้ จำนวน 47 เครื่อง ไว้เป็นของกลางโดยทำการแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ประกอบธุกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่อัตรากฎหมายกำหนด และประกอบธุรกิจทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพ.ศ.2560
พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558โดยมีระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป หากพบการกระทำความผิดหรือมีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม จะได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ในทุกฐานความผิด รวมทั้งติดตามเส้นทางทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ได้มาจากการกระทำความผิด เพื่อเป็นการขุดรากถอนโคนการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงผลปฎิบัติการดังกล่าวอีกครั้ง ทางเพจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam