“ไทย”อ่วม“พายุฤดูร้อน”เริ่มแล้ว21-22มี.ค.นี้.

21 มี.ค. 2564 | 04:15 น.

กรมอุตุฯ เผยวันที่ 21-22 มี.ค.นี้จะเกิดพายุฤดูร้อน ตั้งแต่เที่ยงของวันนี้ เริ่มจากภาคอีสานก่อน ส่วนเหนือ กลาง ตะวันออก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนอ่าวไทย-ภาคใต้ตั้งแต่ 22 - 25 มี.ค.นี้คลื่นสูง1-2เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-22 มี.ค.นี้ ซึ่งในช่วงวันดังกล่าวประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นด้วย

โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

“ไทย”อ่วม“พายุฤดูร้อน”เริ่มแล้ว21-22มี.ค.นี้.

นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ยังได้เผยถึงพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 12.00 น.ของวันพรุ้งนี้

โดยระบุถึงพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศลาวแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (21 มี.ค. 64) และจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบนตามลำดับ

ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบนตามลำดับ

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 22 - 25 มี.ค. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ส่วนฝุ่นละอองในระยะนี้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันมีน้อยถึงปานกลาง เว้นแต่ภาคเหนือที่มีแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนและอากาศไม่สามารถลอยตัวได้ดี ทำให้การระบายของอากาศมีน้อย สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเกิดขึ้น ดังนั้นการสะสมของฝุ่นละอองลดลง

กรมอุตุฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :