ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “เปิดประเทศใน 120 วัน” ของสวนดุสิตโพล กลุ่มตัวอย่าง 84.04% มีความคิดเห็นว่า การเปิดประเทศจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า ประชาชนทำมาหากินได้ เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของการเปิดประเทศใน 120 วัน กลับพบว่ามีกลุ่มตัวอย่างที่คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ถึง 39.88%
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นและความวิตกกังวลของประชาชน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายการทำงานของรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรฝากความหวังไว้กับรัฐบาลเพียงอย่างเดียว การเปิดประเทศจะสำเร็จได้ทุกคนต้องช่วยกัน รัฐบาลต้องบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและทบทวนความเหมาะสมเป็นระยะ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ประชาชนต้องศึกษาข้อมูลให้รู้เท่าทันโรค/วัคซีน การใช้ชีวิตแบบ Next Normal และยังคงต้องตั้งการ์ดแบบสูงสุดเสมอแม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม เพื่อให้เราสามารถหยุดการระบาดของโรคได้ และการเปิดประเทศก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
ประชาชนโดยส่วนใหญ่มีความกังวลกับนโยบายของรัฐบาลเรื่องการเปิดประเทศใน 120 วัน เนื่องจากรัฐบาลยังไม่สามารถจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนได้ ส่วนวัคซีนหลักๆ ที่รัฐบาลจัดหาให้นั้น ได้แก่ ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า มีคุณภาพค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับวัคซีนตัวอื่นๆ เช่น ไฟเซอร์และโมเดอร์นา การตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในแพทย์และพยาบาลจังหวัดเชียงรายกว่า 30 คน ทั้งๆ ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบสองเข็มแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก หากมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศว่าจะดำเนินการให้มีการฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสภายในปี 2564 หรือเกือบ 500,000 โดสต่อวันนั้น ในความเป็นจริง ประเทศไทยฉีดวัคซีนได้โดยเฉลี่ยวันละประมาณ 200,000 โดส ซึ่งห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่มาก จึงทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาล จะสามารถเปิดประเทศได้จริงตามที่แถลงไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง