ด่วน! นายกฯจ่อประกาศเคอร์ฟิว4ทุ่ม-ตี4ทั่วประเทศ

02 เม.ย. 2563 | 06:27 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 11:45 น.

นายกฯออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเย็นนี้ คาดประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร์ 22.00-04.00 น. มีผลพรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันนี้ (2เม.ย.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) โดยคาดว่าจะเป็นการประกาศมาตรการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน(เคอร์ฟิว) ทั่วราชอาณาจักร ในระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้วันพรุ่งนี้ (3เม.ย.63)


ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. เพื่อสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในภาพรวมที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการทบทวนมาตรการต่างๆ 

 

 รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ยังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากยังคงปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปเช่นเดิมอาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทำให้นายกรัฐมนตรี อาจต้องบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เต็มรูปแบบ ตามข้อเสนอจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง(ศปม.) โดยเฉพาะการประกาศเคอร์ฟิว หรือห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานทั่วประเทศในช่วงเวลา ประมาณ 22.00-04.00 น. ภายหลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการนำร่องในการออกมาตรการปิดเมือง ด้วยการกำหนดช่วงเวลาห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานไปแล้วในหลายจังหวัด 

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์แก้ไข้สถานการณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล แถลงว่า กรณีที่มีประชาชนถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะประกาศเคอร์ฟิว หรือ การกำหนดเวลาเข้า-ออกบ้านของประชาชนเพื่อควบคุมการระบาดหรือไม่ว่า  นายกฯจะเป็นผู้แถลงด้วยตัวเองถึงมาตรการที่ยกระดับมาตรการ “นายกฯจะกล่าวขอความร่วมมือด้วยตัวท่านเอง ขอให้ติดตามตรงนี้”

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า  ในที่ประชุมศบค.วันนี้ ทางฝ่ายความมั่นคง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) รายงานในที่ประชุมด้วยว่า โดยอ้างข้อมูลตัวเลขการเดินทางของประชาชนวันเสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนให้ความร่วมมือลดการเดินทางเพียง 45% และพบว่า ช่วงวันธรรมดาที่ผ่านมาลดลงแค่ 20% เท่านั้น 

 

“จึงขอให้นายจ้างพิจารณาปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้ลูกจ้างลดการทำงาน ลดการเดินทาง  ถ้าท่านยังเปิดโรงงาน สถานประกอบการ ก็เป็นความเสี่ยงที่จะต้องให้ความสำคัญมากขึ้น” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว