นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ออกคําสั่งจังหวัดภูเก็ต เรื่อง ปิดสถานที่และกําหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ตําบลราไวย์ อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ระบุว่า เนื่องจากพื้นที่ตําบลราไวย์ อําเภอเมืองภูเก็ต เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่น จึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่ ยานพาหนะสําหรับการขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภค บริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะกู้ชีพ กู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉิน ทางการแพทย์ รถที่ใช้สําหรับภารกิจของทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้น หรือผ่อนผันต้องปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยเคร่งครัด
ขณะเดียวกันยังสั่งให้มีการกําหนดจุดตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 บริเวณรอยต่อตําบลกะรน - ตําบลราไวย์ และจุดตรวจคัดกรองบริเวณหน้าห้างโลตัสสาขาราไวย์ ตั้งอยู่ ณ ถนนวิเศษ ตําบลราไวย์ อําเภอเมืองภูเก็ต โดยมอบหมายให้อําเภอเมืองภูเก็ต สถานีตํารวจภูธรฉลอง และเทศบาลตําบลราไวย์ จัดประกอบกําลังเป็นชุดปฏิบัติการประจําจุดตรวจคัดกรองดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ ให้นายอําเภอหรือปลัดอําเภอ ที่นายอําเภอมอบหมายในพื้นที่เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจําจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว และผู้กํากับสถานี ตํารวจภูธรฉลองหรือผู้ที่ผู้กํากับมอบหมายเป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจําจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว
นอกจากนี้ยังให้สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอําเภอภูเก็ต และเทศบาลตําบลราไวย์ จัตบุคลากรเข้าไปตรวจวัดไข้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตําบลราไวย์ทุกคน หากพบผู้ใดมีอาการซึ่งเข้าข่ายที่ต้อง เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัด กําหนดให้เทศบาลตําบลราไวย์ ทําความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัย ร้านค้าในเขตพื้นที่ตําบลราไวย์ โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน
คำสั่งฉบับนี้ยังระบุด้วยว่าตามที่จังหวัดได้มีคําสั่งปิดโรงแรมแล้ว หากมีโรงแรมใดในพื้นที่ตําบลราไวย์ จําเป็นจะต้องให้พนักงานเข้าไปปฏิบัติงาน ด้านการบัญชี การซ่อมบํารุง หรืออื่น ๆ ให้โรงแรมจัดหาที่พักภายในโรงแรมให้พนักงานจนกว่าจะปฏิบัติหน้าที่ แล้วเสร็จ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพนักงานซึ่งอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรค แต่หากมีพนักงานคนใดมีภูมิลําเนาอยู่นอกเขตจังหวัดและประสงค์จะกลับภูมิลําเนา ให้โรงแรมแจ้งรายชื่อ พนักงานให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจําด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) พิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งนี้ จะต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 เมษายน 2563
“ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่มีให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พํานัก ของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปยังบุคคลอื่นอีก
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2548ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือ ทั้งจําทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกําหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น