หลังจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. วันศุกร์ที่ 15 พ.ค. 63 มีมติให้ ผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ ผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 2 ด้วยการอนุญาตให้เปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงระดับปานกลาง แต่มีความจำเป็นกับการดำรงชีวิตและจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจ รวมมีมติให้ลดเวลาการประกาศเคอร์ฟิวลง และให้มีผลบังคับใช้วันที่ 17 พ.ค. นี้ ภายหลังจากการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
ล่าสุดช่วงค่ำวันนี้(15 พ.ค.63) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 7 ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการผ่อนปรนในระยะที่่ 2 ตามมติศบค. เนื้อหาระบุว่า
ด้วยเป็นการสมควรผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 เพิ่มเติมจากที่เคยผ่อนคลายไว้แล้วเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ได้ รายงานผลการประเมินสถานการณ์ และการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายผู้ประกอบกำร และฝ่ายผู้บริโภค
ประกอบกับฝ่ายสาธารณสุขได้เสนอว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันและสถิติผู้เสียชีวิตในประเทศนับ
แต่ต้นเดือนพฤษภาคมอันเป็นระยะเวลาที่ประกาศใช้ข้อกำหนด (ฉบับที่ 4) (ฉบับที่ 5) และ (ฉบับที่ 6) เป็นต้นมา ลดลงหรืออยู่ในระดับที่ควบคุมได้อย่างต่อเนื่อง แต่เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากสภาพดินฟ้าอากาศ จำนวนของผู้เดินทางข้ามจังหวัดและผู้ที่เดินทางมา
จากต่างประเทศ ตลอดจนประชาชนบางกลุ่มที่ยังประมาทและละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ในขณะที่การแพร่ระบาดก็ยังปรากฏอยู่มากในต่างประเทศ
จึงควรผ่อนคลายตามโอกาสเสี่ยงของบุคคล สถานที่ และประเภทของกิจกรรม ภายใต้เงื่อนไขว่ายังคงให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการต่อไปโดยเคร่งครัด และหากปรากฎว่าจำนวนผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มหรือโอกาสเสี่ยงมีมากขึ้นก็อาจจะระงับหรือเปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายบางส่วนหรือทั้งหมดได้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไปและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00 น. ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และให้ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนดในฉบับที่ 3 ยังคงบังคับใช้ต่อไป
ข้อ 2 การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจพิจารณาผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเฉพาะที่ดำเนินการในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือ การสงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรืออุปการะเด็กกำพร้าที่ประสบปัญหาครอบครัว เด็กยากไร้ หรือเด็กด้อยโอกาส และอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงได้หากปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสถานที่พักอาศัยของตนหรือที่อื่น หรือเป็นการใช้อาคารสถานที่ดังกล่าวเพื่อการทำกิจกรมอันเป็นประโยชน์สาธารณะตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดอนุญาต แต่ยังคงงดเว้นการใช้อาคารสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ หรือการ์ฝึกอบรม ข้อ 3 การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของประชาชนและขับเคลื่อนกิจกรรุมบางอย่าง ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดรวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ให้สถานที่หรือการดำเนินกิจกรรมที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดเคยมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2563 สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างเพิ่มติมได้ทั่วราชอาณาจักร ตามความสมัครใจและความพร้อม ดังต่อไปนี้
(1) กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต
ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์ ให้เปิดดำเนินการได้ แต่ยังคงห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่ดังกล่าวนี้
ข. ห้างสรรพสินค้า ศย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการเพิ่มเติมได้ ในส่วนที่เป็นการจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคและการให้บริการ รวมทั้งร้านอาหารหรือ เครื่องดื่ม (ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน) ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผมหรือ ทำเล็บ
ยกเว้นส่วนที่เป็นโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญ สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรคหรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน คาราโอเกะ สวนสนุก สวนน้ำ สวนสัตว์ สนุกเกอร์ บิลเลียด ร้านกมส์ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝาเท้า สถาบันกวดวิชา สนามพระเครื่อง ศูนย์ประชุม
ทั้งนี้ พื้นที่และกิจกรรมที่เปิดดำเนินการได้ให้งดวนการจัดการแข่งขัน กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการดำเนินการอื่นใดที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่น และให้เปิดดำเนินการ ได้จนถึงเวลา 20.00 น. ฃ
ค. ร้านค้าปลึกค้าส่ง หรือตลาดค้าส่งขนาดใหญ่
ง. สถานที่บริการดูแล สถานที่พำนักอาศัย หรือสถานสงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการให้แก่เด็กหรือผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาระพึ่งพิงให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
จ. การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ซึ่งมื่อรวมคณะทำงานหน้าฉาก และทุกแผนกแล้วต้องมีจำนวนไม่เกินห้าสิบคน และต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วมรายการ
ฉ. ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะกรณีจำกัดจำนวน ผู้เข้าร่วมประชุม และเป็นการประชุมคณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น หรือการประชุม การอบรม การสัมมนา ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมาจากหน่วยงานเดียวกันเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบทราบแหล่งที่มา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดลิสต์ กิจการ-กิจกรรม "ความเสี่ยงสูง" ศบค.ไม่เคาะผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์"
(2) กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ
ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานสริมความงาม และร้านทำเล็บ ทั้งที่อยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตื้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะการเสริมความงามเรือนร่างและผิวพรรณ ไม่รวมถึงการเสริมความงามบริเวณใบหน้า
ข. สถานที่ออกกำลังกายพิตเนสที่มิได้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะส่วนที่เป็นการเล่นโยคะหรือฟรีเวท โดยงดเว้นการใช้เครื่องเล่น เครื่องลู่วิ่ง จักรยานปั่น หรือการเล่นแบบรวมกลุ่ม
ค. สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม เฉพาะกีฬาประเภทที่ตามกติกาสากลที่มิได้มีการปะทะกันระหว่างผู้เล่นและต้องไม่มีผู้ชมการแข่งขัน หากเล่นเป็นทีม ให้มีผู้เล่นได้ฝั่งละไม่เกิน สามคน ได้แก่ แบดมินตัน ตะกร้อ เทเบิลเทนนิส สควอช ยิมนาสติก ฟันดาบ และปืนผา
ง. สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม
จ. สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะ และหอศิลป์
ข้อ 4 การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ ให้เจ้าของหรือผู้จัดการ สถานที่ตามข้อ 3 (1) และ (2) มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งดำเนินการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ตามคำแนะนำ เงื่อนไข และเงื่อนเวลาที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตามที่ทางราชการกำหนด ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบ แนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 สั่งปิดสถานที่นั้นเป็นการชั่วคราวเฉพาะรายในกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ
เมื่อเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดและจัดระเบียบแลระบบต่างๆ แล้ว ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี มีอำนาจสั่งให้เปิดดำเนินการในสถานที่ดังกล่าวได้
ข้อ 5 เพื่อให้มาตรการป้องกันโรคเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ มีคำสั่งปิดสนามชนโด สนามกัดปลา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่โรค รวมทั้งดำเนินการอื่นใดให้สอดคล้องกับ ข้อกำหนดนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2563
ที่มา ราชกิจจานุเบกษา