คำต่อคำ "พรก.เงินกู้" นายกฯแจงสภา กู้เพราะโควิด ไม่ใช่เศรษฐกิจพัง(คลิป)

31 พ.ค. 2563 | 02:40 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 12:20 น.

"นายกฯ" ใช้เวลาเกือบ 20 นาที แจงสภาฯ เหตุผลการออก พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ระบุถ้าไม่มีโควิดเข้ามาก็คงไม่มากู้ ย้ำยังบริหารหนี้สาธารณะได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภา เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ในอภิปราย พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในวันที่ 4 ว่า 

ได้ฟังการอภิปราย 3 วันที่ผ่านมาก็ได้ยินที่กล่าวกันว่ารัฐบาลทำเศรษฐกิจพังแล้วจำเป็นต้องมากู้เงิน ยืนยันว่าไม่ใช่ ซึ่งหากมองด้วยความเป็นธรรมก็จะเห็นว่าเศรษฐกิจของเราก็อยู่ในระดับนี้มาแล้ว แต่ก็ฟื้นฟูได้ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ให้ดีกว่าก่อนหน้านั้นมามากพอสมควร หากย้อน 5 หรือ 10 ปีสถานการณ์ก็เป็นคนละแบบ แต่เราก็พยายามทำเต็มที่ในการดูแลเศรษฐกิจ ขณะที่หนี้สาธารณะก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริหารต่อได้ และเราสามารถกู้เงินได้ในวันนี้ ซึ่งเป็นความเชื่อมั่นหรือระบบการเงินของเราเข้มแข็ง เพราะตัวเลขหนี้สาธารณะของเราอยู่ในเกณฑ์ต่ำ 41%

ทั้งนี้หนี้สาธารณะเกิดจากการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกู้เงินมาลงทุน ซึ่งก่อนหน้านั้นการลงทุนอยู่ในอัตราส่วนที่น้อยมาก ขณะที่ GDP รายได้ของประเทศก็ใช้จ่ายในส่วนที่เป็นภารกิจหลักเป็นส่วนใหญ่ ในการดูแลประชาชนการชดเชยรายได้หรือในส่วนของคนพิการและกลุ่มบาง ซึ่งมีความจำเป็น ดังนั้นพอประมาณในการลงทุนก็จำเป็นต้องหามาใหม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้หลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว เพราะหลายคนก็ติดเก่งกว่าผมแน่นอนคนที่อยู่ในห้องนี้ เพราะทุกคนก็อยู่ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมา

คำต่อคำ \"พรก.เงินกู้\" นายกฯแจงสภา กู้เพราะโควิด ไม่ใช่เศรษฐกิจพัง(คลิป)

ในด้านเศรษฐกิจย้ำว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำในการลงทุนเพื่ออนาคต เช่น อีอีซี ถนน และรถไฟฟ้าตามขีดความสามารถที่เราทำได้ ซึ่งเราก็ต้องดูว่าถ้ากู้เงินมากไปตัวเลขหนี้สาธารณะก็จะสูงขึ้นก็จะหาวิธีการในการลงทุนใหม่ได้อย่างไร ซึ่งหลายอย่างก็เกิดขึ้น ในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่มองว่าสูงนั้นต้องยอมรับว่าวันนี้โลกเปลี่ยนไปและเราก็ไม่สามารถไปจำกัดคนที่มีรายได้น้อยเพราะทุกคนก็อยากจะได้อยากจะมีเหมือนกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด อย่างไรก็ตามจำนวนเงินกู้ที่ผ่านมาผมพูดถึงในสถานการณ์ปกติ แต่เมื่อสถานการณ์โลกในวันนี้เป็นแบบนี้ มีสงครามทางการค้าก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก แต่เราพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหา จะเห็นว่าตัวเลขขึ้นๆลงๆตามลำดับ ไม่มีประเทศไหนที่ทำให้พุ่งปรี๊ดได้ ซึ่งประเทศเราเป็นประเทศประชาธิปไตย ต้องรับฟังทุกฝ่ายรวมทั้งฟังสภาฯ

"จากสถานการณ์ที่ผ่านมา ถ้าไม่มีโควิดเข้ามาก็คงไม่มากู้กันตรงนี้หรอกครับ นี่มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน ถ้าเอาอันนู้นมาพันอันนี้ก็พันกันทั้งวัน อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่จบ ดังนั้นก็ต้องมาดูว่าวันนี้เราหารือกันเรื่องพรกกู้เงิน 1 ล้านล้าน หลายคนก็ยังพูดกลับไปกลับมาว่ากู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ผมได้ยินพูดมา 5-6 ครั้งแล้วท่านไม่ฟังหรือไม่สนใจจะฟังก็ไม่ทราบเหมือนกันผมเกรงบางคนจะไม่เข้าใจ ผมจึงจำเป็นต้องพูดตรงนี้เพื่อไม่ให้คนเข้าใจผิดกันต่อไปเรื่องการกู้เงิน"

สิ่งสำคัญที่สุดคือวันนี้ต้องมาดูผู้เดือดร้อนจากโควิดคืออะไร โดยต้องดูแลและเยียวยาอย่างเร่งด่วนเช่นกรณีที่ปิดกิจการ 3 เดือน เยียวยา 5,000บาท และไปสู่เรื่องการปลดล็อคระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากของผมและศบค. เพราะต้องชั่งน้ำหนักความปลอดภัยสาธารณสุขด้วย อย่างไรก็ตามถ้ากู้เงินไม่ได้หรือช้าหลายอย่างก็พังตามกันทั้งหมด ยืนยันว่าสถานการณ์ในประเทศเรื่องระบการเงินการคลังของเราเข้มแข็งมาก กองทุนสำรองระหว่างประเทศก็สูง

"ผมอาจจะไม่เก่งเท่าท่านผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาก่อน แต่ผมมีคนเก่งของผม มีรัฐมนตรีและมีรองนายกฯของผม ช่วยกันทำงานทั้งหมด และข้อสำคัญความจริงใจในการแก้ปัญหา ผมไม่แก้ปัญหาแบบมักง่ายหรือง่ายๆไป ผมว่ามันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องในเวลานี้และในอนาคตด้วยดังนั้นผมจึงอยากเปลี่ยนให้ทุกท่านทราบว่าเราจำเป็นต้องร่วมมือกันได้ไหมในสถานการณ์พิเศษตรงนี้ ถ้าไม่เห็นด้วยหรือค้านกันทุกเรื่องก็ไปไม่ได้สักอัน ปัญหาก็แก้ไม่ได้ปัญหาใหม่ก็พอๆเข้ามาแล้วผมถามว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหน ไม่มีใครเก่งกว่าใครหรอกครับทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือ ถ้าไม่ร่วมมือมันจะแก้ได้ไหมต่อให้ใช้กฎหมายแรงกว่านี้ก็แก้ไม่ได้อยู่ดี เหมือนกันที่รมว.มหาดไทยกล่าวไปว่า ในช่วงนั้นพอมีสถานการณ์เกิดขึ้นทุกคนก็รุมว่าว่าไม่ดูแลและไม่ทำ พอเราทำมาได้ดีแล้วกลับไปว่าเศรษฐกิจแย่ มันก็วนอยู่แบบนี้เหมือนวัวพันหลักต้องเดินหน้าไปกับผมสิครับ "

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ค้าน ตั้ง กมธ.วิสามัญสอบงบเงินกู้ ชี้ ซ้ำซ้อน-เปลืองเวลา-เบี้ยประชุม

ริบ "ซอฟต์โลน" ปล่อยกู้ต่อ กินส่วนต่างดอกเบี้ย

ธปท.ย้ำหลัก 4 ด้านช่วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำSMEs

“มาดามเดียร์" หนุนรัฐทุ่มงบช่วย SMEs กู้รากฝอยเศรษฐกิจ

 

คำต่อคำ \"พรก.เงินกู้\" นายกฯแจงสภา กู้เพราะโควิด ไม่ใช่เศรษฐกิจพัง(คลิป)

ส่วนการทุจริตต้องมีการตรวจสอบมีหลักฐานแจ้งความต่างๆ ไม่ใช่แค่คำบอกเล่า หรือคำบอกกล่าวแล้วก็ส่งต่อกันในโซเชียล ผมให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว ให้เป็นเรื่องกระบวนการศาลตัดสินมา ใครจะอยู่ใครจะถูกขังหรือใครจะหนีก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไป และผมขอถามว่าที่บอกว่ารัฐบาลทุจริตแล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะทุจริตตรงนี้ ย้ำว่าวันนี้ใครมีปัญหาเรื่องการทุจริตต้องถูกดำเนินคดีถูกสอบสวนจะเห็นว่าในช่วงโควิดก็มีหลายแห่ง ดังนั้นการใช้จ่ายแผนงานโครงการทั้งหมดมีหน่วยงานที่ตรวจสอบแล้ว ทั้งสตง. รวมทั้งป.ป.ช.และ ป.ป.ง. กี่ป.ที่ไล่บี้ทุกอัน ซึ่งผมก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับหน่วยงานใด และขอให้ลองเปรียบเทียบคดีแบบนี้เก่ากับใหม่เกิดขึ้นมากน้อยอย่างไร ซึ่ง ที่เกิดมากไม่ใช่ว่าเพราะทุจริตมากขึ้นแต่เพราะได้นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากยิ่งขึ้น ขอให้มองเป็นตรรกะและข้อเท็จจริงซึ่งผมไม่ได้ว่าใคร ดังนั้นขอให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติได้รับทราบ

"รัฐบาลนี้มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงจังโดยเจตนาบริสุทธิ์ทางการเมืองโดยใช้กลไกปกติกฎหมายปกติ ที่หารือกันในครม. แม้จะมาจากพรรคการเมืองก็ตาม แต่ผมก็รับฟังจากทุกคน และเน้นย้ำว่าอย่าให้เกิดการทุจริตเด็ดขาด เพราะสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ คือเรื่องการทำอย่างโปร่งใส และแก้ปัญหาที่ซ้ำซากยาวนาน อย่าแก้ปัญหาง่ายๆทีเดียวได้ประชาสัมพันธ์แล้วเลิก แต่ถ้าทำงานที่ยากอันเดียวสำเร็จผมว่าดีกว่าทำงานง่ายแค่ 2-3 งานด้วยซ้ำ
จะเห็นว่าผมตอบได้ทุกอัน แต่ท่านฟังหรือเปล่าเห็นถามแล้วก็ไป เก้าอี้มีคนนั่งตั้งเยอะตั้งแยะ มีแต่คนพูดแต่ไม่มีคนฟัง ผมไม่ได้ว่ากันแต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้ฟังท่านพูด จึงต้องมาบอกกลับไปบ้าง ขอให้มองประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก สถานการณ์ไม่ปกติการใช้เงินควรจะเป็นอย่างไร เพราะเป็นเงินก้อนเดียวพี่จะเอามาเสริมในช่วงเวลาวิกฤตนี้ ที่ตอนนี้เรากำลังจะเริ่มเปิดประเทศ จึงครจะมาพูดเรื่องหลังจากนี้ไปเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่พูดกลับไปกลับมา"นายกฯ กล่าว