นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนพระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจพ.ศ. 2563 ฝ่ายค้านเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการออก พ.ร.ก. เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ยังมีแนวทาง ในการช่วยเหลือวิธีอื่นและยังมีระยะเวลา ที่สำคัญฝ่ายค้านรับไม่ได้กับการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ต้องดำรงความเป็นกลางกลับมาเป็นผู้ดำเนินการเสียเองทั้งหมด ทำให้เสียหลักการและจะเกิดเป็นปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะจะเป็นการเอาอย่างในครั้งนี้ การขาดทุน 4.5 หมื่นล้านบาท ก็ไม่เหมาะสม เพราะคนที่เป็นเจ้าของกิจการเหล่านี้ ไม่เดือดร้อนจริง เขายังสามารถหาวิธีการแก้ไขด้านอื่นได้อีก เช่น เอาเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล แต่รัฐกลับมาซื้อหนี้เอกชนเสียเอง ที่สุดจะทำให้เกิดปัญหาด้านหลักการในอนาคต เราจึงโหวตไม่เห็นด้วยและขอให้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน
นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนกรณีของเสียงฝ่ายค้านที่ไม่เท่ากันในการโหวตพ.ร.ก.แต่ละฉบับนั้น พรรคเสรีรวมไทย ได้แจ้งแต่ต้นแล้วว่า ไม่รับหลักการ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน จึงได้งดออกเสียงทั้ง 3 ฉบับ
น.อ.อนุดิษฐ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีจำนวนเสียง 210 เสียง ในวันนี้พรรคเพื่อไทย ขอลาป่วย2คนและได้แจ้งลาประชุมไว้แล้ว พรรคก้าวไกล หัวหน้าพรรค เข้ารับการผ่าตัด ก็ได้ลาป่วย ยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้โหวตไปในทางเดียวกัน 100% แต่เสียงที่ยังขาดไม่เท่ากันบ้าง ก็เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.ฝ่ายค้านบางคน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง เบื้องต้นยืนยันว่า เราโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง ก็ระบุชัดเจนแล้วว่า เห็นด้วยกับหลักการที่จะต้องมีการตรวจสอบการใช้เงินกู้อย่างรัดกุม โปร่งใส จึงหวังว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะให้ความร่วมมือ และให้โอกาสตัวแทนของประชาชนคือส.ส. โดยการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินกู้ในครั้งนี้ด้วย