วันที่ 9 ก.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี "4 กุมาร" ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่ถามมาเป็นประเด็นร้อนในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของทั้ง 4 คน ผมก็เคารพการตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องภายในพรรค ส่วนผมเองก็ต้องเตรียมการพิจารณาว่า จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป วันนี้ขอให้ท่านเชื่อมั่นระบบบริหารราชการแผ่นดินของเรา เชื่อมันในตัวผม และผมก็จะนำพาประเทศชาติในช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ในส่วนการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นวิถีทาง ทางการเมือง การเข้ามาเป็นส.ส. การเข้ามาเป็นรัฐมนตรี การจะเข้ามาเป็นครม. การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการไปพูดคุยเจรจากันอีกครั้ง คำตอบอันนี้ ผมยังไม่มีให้ว่าใครจะเป็น ใครจะเข้า ใครจะออก เพราะเราต้องคุยกับพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามกลไกทางการเมือง ขอให้ใจเย็นๆ
ถาม : ที่มีข่าวว่ากำหนดไว้ว่าเดือนกันยายนจะปรับครม.ถึงวันนี้จะเร็วขึ้นหรือไม่
นายกฯ : (ย้อนถาม) "ดูจากการปรับครม.ใครปรับหรือยัง ผมพูดเมื่อไหร่ว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน ผมไม่เคยพูดจะปรับในเดือนกันยายนเลย พวกคุณไปตีความกันเอง"
ถาม : ช่วงเวลาที่นายกฯ วางจะเป็นช่วงเดือนไหน
นายกฯ : "ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ผมไม่ได้พูดว่าเป็นเดือนกันยายน"
ถาม : นายกฯ ไม่กำหนดชัดเจนว่าจะปรับครม.เมื่อไหร่ ก็จะมีการวิ่งเต้นเพื่อขอตำแหน่งกันอีก
นายกฯ : (ย้อนถาม) "วิ่งกับใคร ผมก็ยืนยันว่า ใครจะวิ่ง ใครจะอะไร คนวิ่งมากๆ ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้ แต่ขอร้องว่าอย่าทำให้เกิดความสับสนอลหม่านได้หรือไม่ ใครจะวิ่งก็วิ่งไปเถอะ ผมจะตัดสินใจด้วยตัวของผมเอง และผมก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตตม ลั่น "4 กุมาร" ลาออกพปชร. ปรับครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ
เปิดไทม์ไลน์ "ปรับ ครม." กันยายน63
ถาม : เมื่อ 4 กุมารไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร.แล้วจะส่งผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่
นายกฯ : เป็นเรื่องกลไกภายในพรรค เพราะสัดส่วนในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองเป็นอันดับแรก โควต้าคนนอกก็เป็นอีกส่วนหนึ่งอย่าลืมว่าตนก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. เพราะฉะนั้นสัดส่วนรัฐมนตรีก็ต้องฟังจากพรรคเป็นหลัก การจะนำคนนอกเข้ามาก็เป็นโควต้าของเขา ซึ่งตนก็ขอเขามาและเขาก็ให้ตนเข้ามาตรงนี้ รวมทั้งมีรัฐมนตรีหลายคนที่มากับผมด้วย
ถาม : การที่ 4 คนลาออกจากพปชร. ถือว่าเป็นโควต้าของนายกฯ ใช่หรือไม่
นายกฯ : เดิมก็เป็นเช่นนั้นอยู่ และเป็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ต้องไปดูว่าโควต้าเหมาะสมแล้วหรือยัง ใครจะได้เพิ่ม ใครจะได้ลดอย่างไรก็ไปว่ากันอีกที
ถาม : พูดได้หรือไม่ว่าการปรับครม.ครั้งหน้าจะเป็นการปรับใหญ่หรือจะปรับเฉพาะที่จำเป็น
นายกฯ : ก็เท่าที่จำเป็น ใครที่เขาทำงานดีอยู่แล้วก็ให้เขาทำงานต่อ ที่ผ่านมาทุกคนทำงานดีทั้งหมด ผมไม่ได้ว่าใครไม่ดี เพียงแต่กลไกทางการเมืองและวิถีทางการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถาม : โควต้าสัดส่วนครม.ของนายกฯ คือเฉพาะตำแหน่งเดิมที่มีอยู่ใช่หรือไม่
นายกฯ : "ผมถึงถามว่า เมื่อเอาเขาเข้ามาแล้ว จำเป็นจะต้องคืนเขาหรือเปล่า ต้องคืนเขาบ้างไหม จะมีคนนอกเข้ามาได้ตรงไหน ก็ต้องไปคุยกันอีก เพราะก็ผ่านมา 1 ปีแล้วก็ต้องคุยกันใหม่
ถาม : ได้มีการพูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บ้างหรือยัง
นายกฯ : ก็มีการพูดคุยกันมาโดยตลอดนายสมคิดก็บอกว่า ท่านเองก็พร้อมทุกเรื่อง
ถาม : แต่ที่ผ่านมามีกระแสข่าวโจมตีและขย่มนายสมคิดบ่อยครั้ง พอจะยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่มีปัญหาระหว่างกัน
นายกฯ : ผมเองก็ต้องดู ก็มีการขย่มกันทั้ง 2 ฝ่าย สื่อก็รู้ว่าใครขย่มใคร แล้วใครขย่มกันอย่างไรวิธีไหน บางทีก็พูดกันไปเรื่อย สื่อก็เอาไปพาดหัวข่าว ซึ่งผมก็ไม่รู้ ผมก็ต้องดูว่าใครขย่มใคร และใครถูกใครผิด ผมก็จะตัดสินของผมเอง
ถาม : หากดูตามระยะเวลาแล้ว คิดว่าถึงเวลาที่จะปรับครม.แล้วหรือยัง ในขณะที่ยังมีวิกฤติหลายด้าน
นายกฯ : พวกท่านก็รู้ว่ายังมีวิกฤติอยู่ ดังนั้นวันนี้ก็ต้องทำงานกันไปก่อน แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องปรับก็จะปรับของผมไป แต่ขอให้เชื่อมั่นในกลไกของเรา การบริหารราชการแผ่นดินที่ผมได้สร้างไว้ ใครจะไปใครจะมา ก็ต้องรักษากฎระเบียบของผมที่วางไว้ ในพ.ร.บ.ต่างๆ ที่ทำไปใหม่ ทั้งพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ร.บ.การเงินการคลัง เราอาจจะยึดมั่นตัวบุคคลเป็นธรรมดาในเรื่องของความเชื่อมั่น แต่สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าตัวบุคคลทำงานร่วมกันไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้ถูกหรือไม่
ถาม : แสดงว่านายกฯ ยึดนโยบายที่ทุกคนต้องสามารถสานต่องานที่วางได้ ถึงจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี
นายกฯ : ผมไม่ได้ล็อกถึงขนาดนั้น ผมคิดว่าผมจะพิจารณาเอง
ถาม : สิ่งสำคัญในการปรับครม.คืออะไร
นายกฯ : เพื่อความสงบเรียบร้อย
ถาม : จะต้องปรับทัพครม. เศรษฐกิจ ใหม่ทั้งหมดหรือไม่
นายกฯ : ครม.ใหม่ถ้าปรับก็ต้องปรับครม.เศรษฐกิจด้วย เพราะครม.เศรษฐกิจ มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องและในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ผมได้เลื่อนการประชุมครม.เศรษฐกิจออกไปก่อน แต่ผมจะประชุมที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจทั้งหมดทั้งในและนอกระบบ มาพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นของเขา ว่ามีแนวความคิดอย่างไร ผมถึงจะนำเข้าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ นี่คือการริหารงานแบบ New normal
ถาม : ดูจากฝีมือการทำงานของ 4 กุมารแล้วครั้งหน้า น่าจะได้กับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่
นายกฯ : คุณจะถามให้ได้สาระอะไรตรงนี้ ผมตอบไปแล้วในภาพรวมและท่านเหล่านี้ก็ทำงานกับผมมาโดยตลอด มีความสำเร็จมามากมายพอสมควร แต่ก็ต้องไปดูว่ากลไกทางการเมืองว่ากันอย่างไร
ถาม : หัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้มองคนนอกไว้จริงหรือไม่
นายกฯ : ก็มองไว้ ขึ้นอยู่กับว่า..."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลุดมาถึงตรงนี้ก็ได้พูดต่อว่า
"ก็มองไว้ทั่วทุกกลุ่ม ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมดูไว้ทั้งหมด รวมทั้งด้านสาธารณสุขก็ดู เพราะผมต้องรับผิดชอบทั้งครม."
ถาม : มั่นใจหรือไม่ว่าครม.จะเป็นที่ยอมรับ
นายกฯ : ผมพูดแล้วว่า การยอมรับเป็นเรื่องยากมากพอสมควร ต้องไปดูมิติอื่นๆ ร่วมด้วย การยอมรับไม่ยอมรับก็เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นเชื่อถือ บางส่วนที่คนอยากให้เข้ามาทำงาน เขาก็ไม่อยากจะมา แต่เราก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด ทุกกระทรวง ยืนยันว่า ยังไม่ได้ทาบใครเลย
ถาม : ที่นายกฯ ระบุว่าจะเปลี่ยนด้านความมั่นคงสาเหตุมาจากอะไร
นายกฯ : ผมพูดในภาพรวมไม่ต้องมาสงสัย มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมทั้งสิ้น ผมทำผิดพลาดอะไรในตำแหน่งรมว.กลาโหม ถ้าไม่ผิดแล้วจะเปลี่ยนทำไม
ถาม : วันนี้มีกระแสข่าวเสนอชื่อพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาเป็นรมว.กลาโหม แทน
นายกฯ : ใครเสนอ ถ้าบอกว่ามีการเสนอตามหน้าข่าวต่างๆ ก็ต้องถามว่าใครเป็นคนเขียนข่าว เรื่องนี้ขอให้ฟังผมก็แล้วกัน
ถาม : กระแสตีให้ 3 ป. แตกกันไม่มีความเป็นไปได้หรือไม่
นายกฯ : (นิ่งเงียบก่อนที่จะกล่าวพร้อมส่ายศรีษะ) เป็นไปไม่ได้