หลังจากวันที่ 20 ก.ค. 2563 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ได้จ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางที่มีอยู่จำนวน 6.7 ล้านรายทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็นการโอนเงินเข้าบัญชี 5.8 ล้านคน (บัญชีที่รับเงินอุดหนุนรายเดือน -เบี้ยรายเดือนตามปกติ ) และที่เหลือ 8 แสนคน หรือคิดเป็น 1 % จะเป็นการรับเงินสด ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นาย ปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(ปลัด พม.) เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)และตอนนี้เงินไปถึงแล้ว ทั้งนี้ต้องใช้เวลา แต่กระทรวงฯยืนยันจะเร่งนำเงินไปให้กลุ่มเปราะบางเพื่อให้รับเงินสดโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน
สำหรับมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบางคนละ 3,000 บาท (เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม )มีจำนวนผู้ที่ได้รับ 6,781,881 คน แบ่งออกเป็น เด็กแรกเกิดจำนวน 1,394,756 คน ,ผู้สูงอายุ จำนวน 4,056,596 คน และ ผู้พิการจำนวน 1,330,529 คน รวมเป็นเงินกว่า 20,345,643,000 บาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ให้พม.ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยการจ่ายเงินเยียวยาโดยตรงรายละ 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค. - ก.ค. 63 รวมเป็นเงิน 3,000 บาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ได้จ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนเงื่อนไขหลักเกณฑ์ของผู้ที่มีสิทธิรับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางทั้ง 3 กลุ่มนั้น ประกอบไปด้วย
1.เป็นผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิการช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม)
2. เป็นกลุ่มที่อยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวง พม. ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีการลงทะเบียนในการขอรับสิทธิ์อีก โดยหากท่านได้รับเงินอุดหนุนในเดือนพฤษภาคม 2563 จากช่องทางการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือในรูปแบบเงินสดถือว่าท่านมีสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวง พม.
3.ต้องเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563
ในกรณีที่ไม่ได้รับสิทธิ์หรือมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง