ภายหลังอัยการสูงสุด(อสส.) มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง "กระทิงแดง" ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จากเหตขับรถเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 49 เมื่อปี 2555 ขณะที่ทางตำรวจก็ไม่มีความเห็นแย้ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่า "คุกมีไว้ขังคนจน" ทำให้ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ต้องตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาตรวจสอบ และคณะทำงานอัยการ ได้แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้วนั้น
วันนี้(4 ส.ค.63) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โดย ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรฯ ได้ออกแถลงการณ์ กรณี ตํารวจและอัยการไม่ส่งฟ้องคดีทายาทนักธุรกิจดังขับรถชนตํารวจเสียชีวิต ฉบับที่ 2 ระบุว่า
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ขอชื่นชมคําแถลงของคณะอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 เกี่ยวกับคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา กรณีขับรถชนดาบตํารวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ จนเสียชีวิตคาที่ โดยอัยการสูงสุดมีคําสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากมีกรณีการเสพโคเคนที่ยังไม่สิ้นอายุความ และจากการปรากฏของพยานหลักฐานใหม่เรื่องการพิสูจน์ความเร็วของรถเฟอร์รารี่ ที่มิได้บันทึกไว้ในสํานวนคดีเดิม โดยในคําแถลงมีการระบุอย่างชัดเจนว่ามิใช่การรื้อฟื้นคดีแต่เป็นการ ส่งฟ้องใหม่ เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด คําแถลงครั้งนี้ ได้สร้างความเชื่อมั่นต่อคณะอัยการสูงสุดเป็นอย่างยิ่ง ทําให้คนไทยทั้งประเทศ ยังมีความหวังต่อกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม การส่งฟ้องใหม่ไม่สามารถลบล้างความผิดเก่าของ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีจนเกิดความเสื่อมเสียที่น่าอดสูครั้งนี้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ฯ จึงขอเรียกร้องให้มีการดําเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ ในทุกหน่วยงานที่ทําให้เกิดความบกพร่อง และผิดพลาดได้ถึงขนาดที่ทําให้หนึ่งในสถาบันสูงสุดของ ประเทศเสื่อมเสียภาพลักษณ์ รวมทั้งประเทศไทยถูกดูแคลนจากนานาชาติ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นตัวอย่าง การลงโทษที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานของกระบวนการยุติธรรม
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ จึงขอเรียนเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรี ได้โปรดพิจารณาสั่งการ ให้นําเจ้าหน้าที่ผู้ทําผิดมาลงโทษเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปในอนาคต โดยขอให้ดําเนินการอย่างรวดเร็ว และโปร่งใสเพื่อดํารงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์แห่งกระบวนการยุติธรรมของประเทศ อันจะนํามา ซึ่งความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลในการบริหารจัดการด้วยธรรมาภิบาลและในนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันดังที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้