“มท.”สั่ง 10 จังหวัดติดเมียนมา สกัดโควิดระบาดเข้มลักลอบเข้าไทย

28 ส.ค. 2563 | 05:11 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2563 | 12:43 น.

“มท.”สั่งด่วน พ่อเมือง10 จังหวัดติดเมียนมา สกัดโควิดระบาด เข้มลักลอบเข้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 สิงหาคม 2563) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ให้ระมัดระวัง ป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย

 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้รายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาจากการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.63 จำนวน 580 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐยะไข่ เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอก จนทำให้มีการล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

นักวิชาการเตือนวิกฤติโควิดในเมียนมา รุนแรงกว่าที่คิด

"หมอธีระ" หวั่น โควิด-19หลุดเข้าไทย แนะ ศบค.ปิดด่านชายแดน

WHO เตือน โควิด-19 ยุโรป เผชิญ 3 เหตุการณ์สำคัญพร้อมกัน

ยอดโควิดวันนี้ 28 ส.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย มาจาก 4 ประเทศ

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 24.6 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 8.3 แสนราย

 

จึงได้เน้นย้ำและสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านประเทศเมียนมา จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดระนอง และจังหวัดราชบุรี ให้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

1.การเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านช่องทางการเข้าออกด่านจุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 อย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

 

2.บูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนเพื่อเพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง ป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ซึ่งหากพบกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเข้มงวด