“กลุ่มธรรมาภิบาล” แฉอ้างชื่อ “บิ๊ก ฉ.- บิ๊ก ป.” เรียกหัวคิวขุดลอกแหล่งน้ำหมื่นล้าน

28 ก.ย. 2563 | 02:08 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.ย. 2563 | 09:33 น.

เปิดหนังสือกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น “ ยื่น“นายกฯ” สอบขบวนการเก็บหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ  11,892 ล้าน พบพิรุธเร่งจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ อ้างชื่อ “บิ๊ก ฉ. - บิ๊ก ป.” รีด 35-50% 

28 กันยายน 2563 กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น นำโดย นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดขบวนการเรียกเก็บหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ วงเงิน 11,892 ล้านบาท

 

หนังสือฉบับดังกล่าว ระบุว่า กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนและผู้ประกอบการที่สุจริตซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมในพื้นที่หลายจังหวัด ว่า ได้มีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายผลประโยชน์ที่อ้างนักการเมือง และ ฝ่ายผลประโยชน์ที่อ้างชื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นำงานขุดลอกแหล่งน้ำภายใต้โครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ กรอบวงเงินงบประมาณปี 2563 (งบกลาง) วงเงิน 11,892.8711 ล้านบาท(หนึ่งหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบสองล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยบาท) ไปดำเนินการ และขายงานต่อ หรือ จัดหาผู้รับเหมาทั่วไปให้มาซื้องานโดยเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวงานละ 35-50% ตามความยากง่ายในแต่ละโครงการ โดยได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบข้อเท็จจริง ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“กลุ่มธรรมาภิบาล”จ่อยื่นนายกฯฟันเก็บหัวคิว 35-50% ขุดลอกแหล่งน้ำหมื่นล้าน

1. คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายใต้กรอบวงเงิน 11,892.8711 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ กระทรวงมหาดไทยให้จังหวัดเป็นหน่วยงานรับงบประมาณตามวิธีการงบประมาณและผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 18,927 โครงการ วงเงินต่อโครงการไม่เกิน 500,000 บาท รวมวงเงินงบประมาณ 9,957.8355 ล้านบาท

 

โดยทุกโครงการต้องทำสัญญาจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 นี้  และจังหวัดได้มอบอำนาจให้นายอำเภอดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรายโครงการด้วยวิธีพิเศษเป็นการตกลงจ้าง เป็นวิธีการที่ทำให้สามารถจัดหาผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งมาเป็นคู่สัญญากับทางอำเภอได้โดยไม่ต้องประกวดราคา

 

กรณีดังกล่าว ถือเป็นการกำหนดวิธีจัดซื้อจัดจ้างที่น่าจะมีเจตนาพิเศษเพื่อต้องการเปิดช่องและหรือเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายผลประโยชน์ทางการเมือง และ กลุ่มผลประโยชน์ที่เป็นคนของผู้ใหญ่ในรัฐบาล หรือผู้ใหญ่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปหาประโยชน์ในโครงการ โดยการนำผู้ประกอบการที่เป็นพรรคพวกของตนเองหรือผู้ประกอบการที่ต้องการทำงานได้ทำสัญญาและเรียกเก็บค่าเข้าทำสัญญางาน เป็นการดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

 2. ได้มีกลุ่มผลประโยชน์ อ้างตนว่าเป็นฝ่ายการเมืองหลายกลุ่ม และ กลุ่มผลประโยชน์ที่อ้างว่าตนเป็นผู้ประสานงานของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คือ กลุ่มคุณนาย อ. ( อดีตเคยเป็นผู้นำงานขุดลอกแหล่งน้ำขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือ อผศ. ที่ได้สิทธิพิเศษเป็นคู่สัญญารับจ้างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยไม่ต้องประกวดราคา ภายใต้แนวทางป้องกันภัยแล้งและอุทกภัยของ คสช. วงเงินงบประมาณกว่า 8,000  ล้านบาท ระหว่างปี 2558-2560  ไปให้ผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศทำงานต่อจาก อผศ. และเรียกเก็บหัวคิวโครงการละ 30-50% )

 

กลุ่มผลประโยชน์ดังกล่าวได้เข้าไปประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดและนายอำเภอหลายอำเภอทั่วประเทศ โดยอ้างชื่อผู้ใหญ่ คือ “บิ๊ก ฉ.” และ “บิ๊ก ป.” เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆดำเนินการเลือกเอาผู้ประกอบการในกลุ่มของตนหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ต้องการทำงานเป็นคู่สัญญา และ เรียกเก็บค่าเข้าสัญญาหรือค่าหัวคิวโครงการละ 30-50% ทุกสัญญา 

 

กรณีดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฏหมาย โดยอาศัยช่องทางการจัดซื้อจัดจ้างรายโครงการโดยวิธีพิเศษ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอสามารถตกลงจ้างและจะจ้างผู้ใดผู้หนึ่งมาทำงานก็ได้ ซึ่งเป็นวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่น่าจะไม่เป็นไปตามแบบแผนปฏิบัติที่คุ้มค่าต่อเงินแผ่นดิน

 

3.โครงการขุดลอกหนองและลำห้วย จำนวน 18,927  โครงการทั่วประเทศครั้งนี้ อาจไม่ใช่โครงการที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง เหตุเนื่องจากได้มีการขุดลอกแหล่งน้ำอยู่เป็นประจำทุกปีงบประมาณในหลายหน่วยงานของรัฐอยู่แล้ว 

 

กรณีนี้จึงน่าจะเป็นความต้องการของฝ่ายผลประโยชน์ทางการเมือง และ กลุ่มผลประโยชน์นอกระบบที่มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลอยู่เบื้องหลัง ที่ต้องการผ่องถ่ายงบประมาณแผ่นดินไปเป็นของตนเองและพรรคพวกผ่านโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ และ ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐซึ่งอ้างว่าชอบด้วยกฏหมาย เปิดช่องให้กลุ่มผลประโยชน์หาประโยชน์โดยมิชอบจากเงินแผ่นดินโดยกฏหมายไม่สามารถเอาผิดได้ในลักษณะเป็นการทำธุรกิจเพื่อค้างบประมาณแผ่นดินโดยนำโครงการขุดลอกแหล่งน้ำมาเป็นข้ออ้างอิง ทำให้ประโยชน์ของทางราชการและประโยชน์ประชาชนเสียหายไม่น้อยกว่า 4,000  ล้านบาท

ดังนั้นกลุ่มธรรมาภิบาล จึงขอให้ท่านในฐานะผู้กำกับดูแลงบกลาง ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดต่อขบวนการที่ร่วมกันทุจริตต่อเงินแผ่นดินโดยอ้างการจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษกรณี ตกลงจ้าง ครั้งนี้ ดังนี้

 

1.ให้ตรวจสอบกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง และ กลุ่มคุณนาย อ. ว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับ “บิ๊ก ฉ” และ “บิ๊ก ป.” ในการทำสัญญางานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศและเรียกเก็บหัวคิวผู้ประกอบการหรือไม่อย่างไร และหากพบว่ามีการเชื่อมโยงในการกระทำผิด ให้มีข้อสั่งการให้ดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุดต่อไป

 

2.ให้ตรวจสอบการทำสัญญาขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ จำนวน 18,927 โครงการ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และหรือ มีการนำผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องเข้าเป็นคู่สัญญาเพื่อนำงานไปขายต่อหรือไม่

 

  3.ให้ตรวจสอบการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ ทั้ง 18,927 โครงการ ว่าได้ดำเนินการถูกต้องเป็นไปตามแบบTORและสัญญาหรือไม่

 

จึงเรียนมาโปรดดำเนินการตรวจสอบโดยเร่งด่วน และหากพบว่ามีการกระทำผิดและหรือทุจริตในข้อใดข้อหนึ่ง ขอให้ท่านยกเลิกโครงการและจัดให้มีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ทั้งหมด  เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่สุจริตทั่วประเทศ ให้มีสิทธิเข้าถึงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมโดยไม่มีผู้ใดมาเรียกเก็บหัวคิว และทำงานให้คุ้มค่าต่อเงินแผ่นดิน โดยให้ท่านยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษแบบตกลงจ้างครั้งนี้ เป็นการตัดวงจรขบวนการเรียกเก็บหัวคิวขบวนการใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมาในประเทศไทย  เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนด้วย