ช่วงเย็นวันนี้(8พ.ย.63) จะมีการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน
ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า เจ้าหน้าที่ใช้กำลังทั้งหมด 59 กองร้อย โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบออกเป็น 3 พื้นที่
พื้นส่วนที่ 1.เป็นพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและบริเวณโดยรอบ ถนนราชดำเนินกลาง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกผ่านฟ้า อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รักษาการผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1
พื้นส่วนที่ 2. สนามหลวง ศาลฎีกาและถนนพื้นที่ใกล้เคียง เป็นความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 8 พ.ย.63
พื้นส่วนที่ 3 ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า แยกจปร.แยกมัฆวานและบริเวณทำเนียบรัฐบาล เป็นหน้าที่รับผิดชอบของ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น
อย่างไรก็ตามกองบัญชาการตำรวจนครบาลอยากจะฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุม มาตรา 7. ไม่มีให้การชุมนุมในระยะ 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วัง ที่ประทับหรือที่พำนัก ห้ามให้มีการชุมนุมโดยเด็ดขาด ผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ที่มาชุมนุม หากฝ่าฝืน ต้องได้รับโทษตามกฎหมายแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเสริมว่า การปฏิบัติตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะพ. ศ. 2558 เท่าที่ได้รับรายงาน มีเพียงกลุ่มเดียวคือกลุ่ม ศปปส. ที่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ มีวัตถุประสงค์การชุมนุมและเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนต้องแจ้งการชุมนุมก่อน วัตถุประสงค์ จำนวนคน เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อการดูแลรักษาความปลอดภัย แต่ถึงแม้จะมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ หากการชุมนุมมีการกระทำความผิดกฎหมายอื่นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่ใช่ว่าแจ้งแล้วจะสามารถทำอะไรก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงจะมีการเผชิญหน้ากันของม็อบ ศปปส.และกลุ่มคณะราษฎรหรือไม่ เพราะจัดในสถานที่เดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว เป็นข้อห่วงใยของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งแนวต้าน ไม่ให้กลุ่มมวลชนทั้ง 2 กลุ่มเผชิญหน้ากัน ส่วนการข่าวของเจ้าหน้าที่พบว่าตอนเย็นกลุ่มผู้ชุมนุม อาจจะใช้ถนนราชดำเนินกลางหรือถนนนครสวรรค์ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามการชุมนุม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะดูตามสถานการณ์ว่าจะประกาศให้ให้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่ ห้ามการชุมนุมระยะ 50 เมตรด้วยหรือไม่อยู่ระหว่างการพิจารณา ถ้ามุ่งหน้าถนนราชดำเนินกลางด่านสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมผ่านหรือเข้าพื้นที่สำคัญไม่แยก จปร.ก็เป็นแยกมัฆวาน ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมมุ่งหน้าไปทางสนามหลวงด่านสุดท้ายเป็นบริเวณถนนมหาธาตุ โดยแกนนำยังเป็นกลุ่มเดิม
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งเป้าว่าจะมีการเขียนหนังสือถึงสถาบัน เข้าข่ายผิดมาตราไหนบ้าง พล.ต.จ. ปิยะ ตอบว่า ถ้าข้อความไม่มีผลกระทบหรือไม่ผิดกฎหมาย ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าผิดก็ดำเนินการตามกฎหมาย เช่นเดียวกันถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ต้องห้ามก็ต้องดูตามสถานการณ์ตามกฎหมายที่กำหนด
ถามอีกว่าเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะปิดสถานที่สำคัญถึง 22 ที่ พล.ต.ปิยะ กล่าวว่าอาจจะเป็นการดาวกระจาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงเหตุมีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์จุดปะทัดที่บีทีเอสท่าพระ จากการสืบสวนและทดสอบ ปรากฏว่าประทัดที่จุดไม่สามารถ ทิ้งลงมาจาก ชั้น 2 หรือบนอาคารได้แสดงว่าการจุดประทัดอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ช่วงเที่ยงบรรยากาศบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการเตรียมความพร้อมของแท่นปูนแบริเออร์ รั้วเหล็ก รวมถึงรั้วลวดหนามหีบเพลง เพื่อป้องกันหากกลุ่มม็อบราษฎรเดินเคลื่อนขบวนมายังบริเวณลานพระราชวังดุสิต รวมถึงลานพระบรมรูปทรงม้า และยังมีการเตรียมรถสลายการชุมนุมหรือรถฉีดน้ำเอาไว้ด้วย
โดยบริเวณถนนราชดำเนินนอกยังคงเปิดให้สัญจรได้ตามปกติ และที่บริเวณฟุตบาท หน้าพระบรมรูปทรงม้า มีประชาชน ใส่เสื้อเหลืองพร้อมถือธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ มานั่งรออยู่ด้วย