"คณะราษฎร" ที่นัดชุมนุมใหญ่วันนี้ (8 ต.ค.63) ทำให้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการวางกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม 59 กองร้อย ประมาณ 8,850 นาย โดยแบ่งเป็น 3 พื้นที่สำคัญ คือพื้นที่โซนแรก ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงสะพานผ่านฟ้า โดยมี พันตำรวจเอก อรรถวิทย์ สายสืบ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 สำหรับพื้นที่โซน2 สนามหลวงและพื้นที่โดยรอบรวมถึงวัดพระแก้ว มี พลตำรวจตรีเมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล6 และพื้นที่โซน3 สะพานผ่านฟ้าถึงทำเนียบรัฐบาล มาพลตำรวจตรีสหรัฐ สังข์ศิลปชัย รอง ผบช.น. และพลตำรวจตรี จิรภัทร ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ควบคุมดูแล
“ขอย้ำว่า ห้ามผู้ชุมนุมเข้าใกล้สถานที่สำคัญเกิน 150 เมตร ทั้งสถานที่ราชการและเขตพระราชฐาน โดยถนนราชดำเนินมาถึงได้แค่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ส่วนทางไปสนามหลวงไปได้แค่ซอยมหาธาตุถึงหน้าศาลฎีกาเท่านั้น แต่หากผู้ชุมนุมยังยืนยันจะผ่านเข้าไป จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ส่วนกิจกรรมการเขียนราษฎรสาสน์ถึงกษัตริย์ หากพบว่ามีข้อความหมิ่นประมาทหรืออาฆาตมาดร้ายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ” พล.ต.ต.ปิยะ ย้ำ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การชุมนุมมี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือศ.ป.ป.ส. ชุมนุมหน้าร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง ตอน 14.00 น. ซึ่งผู้ชุมนุมทำหนังสือขออนุญาตเรียบร้อย
ส่วนกลุ่มราษฎรจะมาตอน 16.00 น. ไม่มีการขออนุญาต แต่ยืนยันว่า จะไม่มีการเผชิญหน้ากันแน่นอนพร้อมฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมที่ต้องการมาชุมนุมที่ใดก็ตาม ทำหนังสือส่งถึงตำรวจก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาเริ่มเกิดเหตุมือดีเข้ามาสร้างสถานการณ์บ้างแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีเหตุมือดีสร้างสถานการณ์ เป็นเพราะผู้ชุมนุมไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้รักษาความปลอดภัยไม่ได้ และเหตุประทัดที่รถไฟฟ้าท่าพระเป็นการจุดกันเองในกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเมื่อพิสูจน์ทราบแล้ว ไม่สามารถโยนลงมาจากข้างบนได้
นอกจากนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วอีกจำนวนหนึ่งกรณีผู้ชุมนุมราษฎร อาจจะเคลื่อนไปยังจุดต่างๆ ซึ่งมีการประเมินว่าอาจจะมากถึง 22 จุด แต่จะเป็นจุดไหนบ้างต้องรอผู้ชุมนุมอีกครั้ง
ส่วนบรรยากาศที่บริเวณถนนราชดำเนิน ตำรวจเตรียมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนมาไว้ตามจุดต่างๆ รอบทำเนียบรัฐบาล ทั้งที่สะพานชมัยมรุเชฐ และสะพานมัฆวาน และตามถนนราชดำเนินนอกถึงราชดำเนินกลาง มีการตั้งแนวรั้ว และเตรียมอุปกรณ์ป้องกันฝูงชนไว้ตามรายทาง
นอกจากนี้ยังพบมีการเตรียมรถควบคุมฝูงชน รถฉีดน้ำแรงดันสูง 5 คันจอดไว้ที่ถนนพิษณุโลก ด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมรถน้ำจำนวนหนึ่ง
ขณะที่โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาบางส่วน โดยบรรดาแม่ค้าพ่อค้าได้มีการตั้งแผงค้าขายป็นแนวยาวตั้งแต่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยาถึงแยกคอกวัว โดยมีกำลังตำรวจมาลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยเป็นระยะ
ส่วนที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานยังคงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามปกติ แต่ต้องผ่านจุดตรวจร่างกายและเครื่องวอล์คทู