วันนี้ (8 มี.ค.64) นายประยุทธ์ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการคดีอาญา 7 ได้นัดสั่งคดีผู้ต้องที่เหลือทั้ง 18 คน ในคดีชุมนุม "19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร" เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง ความผิด ม.112 , ม.116 และ ม.215 ซึ่งก่อนหน้านี้มีฟ้องไปแล้วบางส่วน เช่น นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน
โดยผู้ต้องหาทั้ง 18 คน จะถูกฟ้องข้อหา ร่วมกันกระทำผิด ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์สิน และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ รวม 11 ข้อหา
แต่ มี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ“รุ้ง”, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง”, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” เฉพาะ 3 คนนี้จะมีข้อหา 112 เพิ่มเติม
กรณีมีการสั่งฟ้องไว้แล้วและนัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาในวันนี้ ส่วนกรณีของ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือแอมมี่ ก็คงต้องส่งฟ้องโดยวิธีการเบิกตัว เพราะอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ทางผู้ต้องหาไม่มีการร้องขอความเป็นธรรมผ่านทางอัยการ สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ การประกันตัวขึ้นอยู่กับความจำนงค์ของผู้ต้องหา และการพิจารณาของศาล
เมื่อถามว่ามวลชนมองว่ากระบวนการยุติธรรมมีการฟ้องเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายชาญชัย ชรานนท์นิวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการ กล่าวว่า ใช้มาตรฐานเดียวกับกับคดีอาญาอื่นๆ โดยมีการพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน จากข้อเท็จจริง จากการสอบสวนความจริงจะเป็นเช่นไรก็ขึ้นกับการซักค้านในชั้นศาล
สำนวนในวันนี้จะนำไปรวมกับสำนวนแรก ที่มีการฟ้องไปก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องการประกันตัวทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราว และให้เหตุผลว่ามีอัตราโทษสูง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ผู้ต้องหาบางคนอาจจะได้ประกันก็เป็นไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำม็อบราษฎร 3 คน ถูกข้อหา ม.112 ได้แก่ 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 2.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน 3.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์
ส่วนอีก 15 คน ผิด ม.116 และ อีก11 ข้อหา ประกอบด้วย 1.นายอรรถพล บัวพัฒน์ 2.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง 3.นายชูเกียรติ แสงวงศ์ 4.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา 5.นายณัทพัช อัคฮาด 6.นายธนชัย เอื้อฤาชา 7.นายธนพ อัมพะวัต 8.นายธานี สะสม 9.ภัทรพงศ์ น้อยผาง 10.นายสิทธิ์ทัศน์ จินดารัตน์11.นายสุวรรณา ตาลเหล็ก 12.นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ 13.นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ 14.นายณัฐชนน ไพโรจน์ และ 15.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ "แอมมี่ the bottom blues" ซึ่งขณะนี้ถูกฝากขังระหว่างสอบสวนในคดีวางเพลิงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
สำหรับทั้ง 3 คดี ที่พนักงานอัยการสั่งฟ้อง 18 แกนนำ ประกอบด้วย
1.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี
2.ประมวลกฎหมายอายา มาตรา 116 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อ ความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี
3.ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: