วันที่ 2 พ.ค. 2564 พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบความพร้อมของโรงพยาบาลสนามชั่วคราว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่อยู่ภายในสนามบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี -รังสิต และหารือความพร้อมในการใช้โรงพยาบาลสนามชั่วคราวแห่งนี้รองรับข้าราชการตำรวจ และประชาชนที่ติดเชื้อโควิค 19 ซึ่งส่งต่อมาจากโรงพยาบาลตำรวจและส่วนอื่นๆ
ทั้งนี้โรงพยาบาลสนามชั่วคราวแห่งนี้ เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดในสถานกักกันคนต่างด้าว ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยได้รับความร่วมมือจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, โรงพยาบาลตำรวจ, กรุงเทพมหานคร ,และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการตรวจพบในช่วงแรกมีผู้ต้องกักติดเชื้อ 400 คน/ รักษาตัวในห้องกักบางเขน ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน 200 คน และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราวแห่งนี้อีก 200 คน
ต่อมาเมื่อต้นเดือนเมษายนได้มีการตรวจสอบคัดกรองผู้ต้องกักจำนวน 200 คนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ผลตรวจไม่พบเชื้อและมีภูมิต้านทานแล้ว 82 คน จึงเคลื่อนย้ายและผลักดันส่งกลับประเทศไปก่อนหน้านี้ โดยยังมีผู้ต้องกักที่มีผลการตรวจเป็นบวกอีก 318 คน และมีกลุ่มใกล้ชิดสัมผัสเสียงสูงอีก 154 คนรวมเป็น 472 คน และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบคัดกรองผู้ต้องกักทั้งหมดอีกครั้งพบว่า 454 คนไม่พบเชื้อ และมีภูมิต้านทานแล้ว จึงเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักทั้งหมดออกจากโรงพยาบาลสนามไปอยู่ที่ห้องกักตัวบางเขน และเตรียมส่งกลับประเทศต้นทาง 3 ประเทศเพื่อนบ้านในสัปดาห์หน้า แต่ผู้ต้องกักที่มาจากประเทศโซนยุโรป ยังต้องรอจนกว่าจะมีการเปิดประเทศปลายทาง ส่วนผู้ที่รอผลอีก 15 คนขณะนี้ได้จัดกักตัวแยกไว้ในที่เฉพาะแล้วในห้องกักบางเขนแล้ว
เมื่อทำการนำผู้ต้องกักทั้งหมดออกจากโรงพยาบาลสนามแล้ว จากนี้จะมีการทำความสะอาดฉีดพ่นฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ในโรงพยาบาลสนาม และกำจัดขยะติดเชื้อโรค โดยคาดว่าจะขนขยะทั้งหมดออกได้ภายในคืนนี้ จากนั้นจะมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และทิ้งไว้ 1 คืน จึงจะมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อซ้ำอีก เพื่อความปลอดภัย เมื่อขั้นตอนดังกล่าวเสร็จสิ้น หน่วยงานต่างๆจะติดตั้งอุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในโรงพยาบาลสนาม คาดว่าในวันพุธที่ 5 พฤษภาคมนี้จะเปิดทำการพร้อมรองรับผู้ป่วยที่เป็นข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลตำรวจได้ทันที
ส่วนปัญหาข้อขัดข้องก่อนหน้านี้ พบมีปัญหาเรื่องความร้อนจากตัวอาคารและหลังคา ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงติดตั้งสปริงเกอร์หัวฉีดน้ำที่หลังคาและบริเวณอาคาร เพื่อลดความร้อน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจำนวนพัดลมเพื่ออำนวยความสะดวกและคลายความร้อนให้กับผู้ติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา ส่วนอีกหนึ่งปัญหาคือ เรื่องห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ได้นำถังน้ำประปามาติดตั้งเพิ่มเติม และวางระบบท่อให้ใหม่ รวมถึงจัดรถห้องสุขามาให้บริการอีก 1 คัน
นอกจากนี้ จะมีการจัดแพทย์ 1 คน พยาบาล 5 คนจากโรงพยาบาลตำรวจมาคอยดูแลตรวจอาการของผู้ป่วย และจัดกำลังของเจ้าหน้าที่มาดูแลพื้นที่โดยรอบ ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลภูมิพลซึ่งอยู่ใกล้มากที่สุด อีกทั้งโรงพยาบาลตำรวจ จะเปิดห้อง ICU เพิ่มเติม เพื่อรองรับประชาชนและข้าราชการตำรวจที่อาจมีอาการหนักด้วย