สธ.แจง กมธ.งบฯปี 65 เอกชนเตรียมนำเข้าชุดตรวจ Antigen Test Kit อีก 10 ล้านชิ้น

14 ก.ค. 2564 | 05:41 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ค. 2564 | 19:29 น.

"เรืองไกร" เผย กมธ.งบฯปี 65พิจารณาแล้ว 12 กระทรวง 9 กองทุน คิดเป็น 45.7 % วงเงินทั้งสิ้น 7.2 แสนล้านบาทเศษ ระบุสาธารณสุข ไฟเขียวให้บริษัทเอกชนนำเข้าชุดตรวจ Antigen Test Kit อีก 10 ล้านชิ้น

วันที่ 14 ก.ค. .2564  ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 แถลงว่า ขณะนี้คณะกมธ.ฯ พิจารณาแล้ว 12 กระทรวง 9 กองทุน คิดเป็น 45.7 % วงเงินทั้งสิ้น 7.2 แสนล้านบาทเศษ โดยวานนี้ (13 ก.ค.) เป็นการพิจารณาส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพิจารณา 4 หน่วยงาน คือ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กรมสุขภาพจิต และกองทุนภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ภาพรวมการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข 

 

ส่วนมากสอบถามเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในขณะนี้ โดยกมธ. บางท่านสอบถามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวทางควบคุมการระบาดของโควิด – 19 ซึ่งทำให้ประชาชนติดเชื้อจำนวนมากในขณะนี้อย่างไร มีการบริหารจัดการวัคซีน และชุดตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ซึ่งเป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างมากในขณะนี้อย่างไร โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีเกี่ยวข้อง ชี้แจงว่า วิธีการในการควบคุมโรคช่วงที่ประเทศไทยยังมีผู้ติดเชื้อไม่มาก เมื่อหน่วยงานทราบว่ามีการติดเชื้อที่ใดจะไปสอบสวนโรค โดยแยกผู้ติดเชื้อออกมา ต่อมาเมื่อผู้ติดเชื้อมากขึ้น จึงคิดวิธีบับเบิ้ลแอนด์ซีลขึ้นมา ซึ่งเมื่อมีการระบาดก็จะปิดสถานที่นั้นเฉพาะจุด แต่ปัจจุบันเมื่อผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้การสอบสวนเป็นไปได้ยาก จึงใช้วิธีการฉีดวัคซีนในการควบคุมโรค

 ส่วนเรื่องชุดตรวจหาเชื้อหน่วยงานชี้แจงว่า ได้อนุญาตให้ประชาชนได้ใช้การตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งเป็นชุดตรวจหาเชื้อเบื้องต้น ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนนำเข้าชุดตรวจแบบ ATK แล้ว จำนวน 1.4 ล้านชิ้น พร้อมจำหน่ายในร้านขายยาที่มีเภสัชการควบคุม และในสัปดาห์นี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการจัดซื้อเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน และในสัปดาห์หน้าบริษัทเอกชนแจ้งว่าจะสามารถนำเข้าได้อีกประมาณ 10 ล้านชิ้น

 

นายเรืองไกร กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในส่วนของคณะกมธ.ฯ ว่า กมธ.มีความระมัดระวัง ซึ่งการประชุมวันนี้มีมาตรการที่เข้มขึ้น โดยให้ผู้ชี้แจงนั่งห้องข้างๆแล้วชี้แจงด้วยการใช้ระบบซูมเข้ามา ไม่ให้เข้าห้องกมธ. แต่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะให้ผู้ชี้แจงอยู่ที่หน่วยงานไม่ต้องเข้ามาที่รัฐสภาโดยให้ใช้ระบบซูม เพราะกมธ.เกือบทั้งหมดห่วงว่าถ้างานกมธ.งบฯ มีปัญหามีผู้ติดเชื้อจะยิ่งเป็นปัญหามากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.งบฯ เรียกร้องให้เปิดเผยสัญญาการสั่งจอง และจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกา นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการอ้างสัญญาต่างประเทศมาเทียบกับไทย ซึ่งเราต้องดูกฎหมายของไทยด้วย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลช่องทางปกติตนเห็นว่าไม่น่ามีปัญหา ในส่วนของกมธ.งบฯ ก็อยากเห็นสัญญา แต่ต้องดูว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่ ตนเห็นด้วย และสนับสนุน การตรวจสอบสัญญา เพราะเป็นเงินแผ่นดิน เป็นภาษีประชาชน ก็ต้องเปิดเผยให้ทราบ ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาของคณะกมธ.ฯ ว่าเป็นอย่างไร