มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระลอก 3 ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท บริการสินเชื่อสู้ภัย COVID – 19 สำหรับเกษตรกรลูกจ้างภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID – 19 และเพื่อป้องกันการเป็นหนี้นอกระบบ โดยให้กู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.35% ต่อเดือน (อัตรา 4.20% ต่อปี ) ปลอดชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก โดยมีระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี เปิดบริการสินเชื่อตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564
เงื่อนไขสินเชื่อสู้ภัย COVID – 19
วงเงินสินเชื่อ : กู้ได้รายละไม่เกินรายละ 10,000 บาท
คุณสมบัติผู้กู้
- เป็นเกษตรกรรายย่อยหรือลูกจ้างภาคการเกษตร สัญชาติไทยอายุ 20 ปีบริบูรณขึ้นไป และมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน
- เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระยะเวลาชำระหนี้
- ชำระหนี้คืนเป็นรายเดือนโดยปลอดชำระต้นเงินและปลอดชำระดอกเบี้ย 6 งวดแรก ชำระแล้วเสร็จไม่เกิน 3 ปี
หลักประกัน
- เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (Clean Loan)
อัตราดอกเบี้ย
- แบบคงที่ (Flat Rate) ในอัตราร้อยละ 0.35 ต่อเดือน
ระยะเวลาการขอกู้โครงการ
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564
เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อ
1. ตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร โดยใช้ผลคะแนนมาพิจารณาผ่อนปรนจากสินเชื่อปกติของธนาคาร
2. ต้องไมเป็นหนี้ที่มก่อให้เกิดรายใด (NPLs) หรือต้องมีสถานะปกติ
ทั้งนี้จากเงื่อนไขการผ่อนชำระหนี้ดังกล่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ได้คำนวณการผ่อนชำระต่อเดือน กรณีผ่อนชำระ 3 ปี ภาระดอกเบี้ยรวมจะอยู่ที่ 1,260 บาท บวกเงินต้นอยู่ที่ 11,260 บาท ผ่อนชำระ (เงินต้นบวกดอกเบี้ย) ต่อเดือน 375 บาท
ช่องทางแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อสู้ภัย COVID-19
ผ่าน Line Official BAAC Family
นอกเหนือนี้ ธ.ก.ส.ยังได้จัดโครงการ พักชำระหนี้ต้นเงินให้กับเกษตรกร และบุคคล ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล)สหกรณ์(ไม่รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ) กลุ่มเกษตรกร กลุ่มบุคคล กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนและองค์กร ที่มีสัญญาเงินกู้และมีต้นเงินคงเป็นหนี้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2564 และเป็นหนี้ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป และต้องไม่เป็นหนี้ตามโครงการนโยบายรัฐ หรือโครงการที่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีเงื่อนไขตามมาตรการอื่น ๆ จำนวน 2.82 ล้านราย
โดยจะพักชำระต้นเงินออกไป 6 เดือนถึง 1 ปี นับจากงวดที่ถึงกำหนดชำระเดิม และเป็นไปตามความสมัครใจของลูกค้า โดยลูกค้าชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น
" มาตรการดังกล่าว จะช่วยคลายความกังวลใจลดภาระการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวให้แก่ลูกหนี้ โดยลูกหนี้สามารถนำเงินงวดที่จะต้องชำระหนี้ไปเป็นสภาพคล่องในการดำเนินชีวิตประจำวันและการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ในส่วนของการพักชำระหนี้จะพิจารณาจากการกำหนดงวดชำระหนี้ตามศักยภาพของเกษตรกรบุคคล สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนิติบุคคล " นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินได้ผ่านช่องทาง LINE Official BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th และ Call Center 02 555 0555