“แอมพอส” งัดเทคโนโลยี สร้างฟีเจอร์เอชอาร์ รับความต้องการตลาดแบบ New Normal มั่นใจตลาดธุรกิจเอชอาร์ หรือบริหารทรัพยากรบุคคล เติบโตเพิ่ม หลังไวรัสโควิด-19 พ่นพิษ เร่งองค์กรทรานสฟอร์มรับวิถีการทำงานแบบใหม่
“บัญชา ธรรมรุ่งเรือง” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอมพอส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชั่นสำหรับ HR ยุคใหม่ในการบริหารจัดการองค์กร เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ส่งผลธุรกิจด้านเอชอาร์หรือการบริหารทรัพยกรบุคคลขององค์กรกระทบไปบ้าง แต่การเข้ามาของโควิด-19 ได้สร้างให้เกิดความต้องการใหม่ๆ หรือ วิถีการบริหารทรัพยากรบุคคลแบบใหม่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา แอมพอสก็ต้องปรับตัวเช่นกัน
สำหรับการปรับตัว เพิ่มประสิทธิผลให้กับองค์กร มี 6 เรื่องหลัก คือ Business Strategy & Business Model, Communication & Collaboration, Innovation & Digital Transformation, Team Capabilities & Productivity, Team Physical & Mental Health และ Organization Culture Resilience & Agile
New Normal ทำให้แม้แต่องค์กรก็ต้องปรับตัว ทั้งแผนธุรกิจ กลยุทธ์ การสื่อสารภายในองค์กร การปรับ Mindset ของผู้นำและพนักงาน ที่จะทำแบบเดิมไม่ได้ องค์กรต้องปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลให้กับองค์กร รวมทั้งต้องเพิ่ม Skill Set ใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น
แอมพอส ได้นำจุดแข็งทางด้านเทคโนโลยี ผสานกับพันธมิตร บริษัท แพคริม ที่ทำงานด้านเอชอาร์ โดยแอมพอสได้พัฒนาฟีเจอร์โซลูชั่นรูปแบบต่างๆ ตามโจทย์ที่ได้จากแต่ละองค์กร เพื่อความสะดวกในการแก้ปัญหาขององค์กรอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ 6 เรื่องหลัก ที่แต่ละองค์กรต้องปรับตัว
การปรับตัวขององค์กรที่เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเวลาหลังจากนี้ การบริหารทรัพยากรบุคคลจะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น และจะยิ่งสำคัญมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น การทำงานของเอชอาร์จะต้องผสานไปกับแนวทางขององค์กร โดยการทำงานร่วมกันแบบพาร์ทเนอร์ เพื่อให้องค์กรเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้าที่ 23 ฉบับที่ 3,588 วันที่ 2 - 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563