ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า จากบทบาทของสื่อ ที่วันนี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะความรวดเร็วของการเผยแพร่ข่าวสารผ่านเทคโนโลนีต่างๆ ทำให้รัฐจัดตั้ง กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อช่วยคัดกรอง และให้ความรู้ ทำให้เกิดสื่อสร้างสรรค์และมีความปลอดภัยขึ้นมา โดยเฉพาะ "การรู้เท่าทันสื่อ" เพื่อไม่ให้เกิดการครอบงำจากการมอมเมา หรือรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน โดยการจัดหาพันธมิตร อาสาสมัคร เครือข่ายจิตอาสา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น
จากแผนพัฒนาสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ฉบับที่ 1 ปี 2562-2565 เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทั่วประเทศ รวมไปถึงผู้ผลิตสื่อต่างๆ รวบรวมความคิดดีๆ แล้วนำมาต่อยอดสร้างสรรค์ แผนพัฒนาในระยะที่ 1 ยังกำหนดให้ระดมการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน และเน้นไปที่ผู้ผลิตสื่อช่วยกันคิดทำสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมควานหาพันธมิตรมาช่วยระมัดระวังเรื่องสื่อที่ไม่ปลอดภัยและสร้างสรรค์
สิ่งสำคัญ คือ การรู้เท่าทันสื่อ คำนี้ฟังดูใหม่แต่มีความสำคัญมากในวันนี้ ถ้ารู้เท่าทัน ก็ทำให้ความคิดเราไม่ถูกครอบงำ อย่างเช่นที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยาจะมีการสอนวิชาการรู้เท่าทันสื่อ โดยมีเหตุผลคือการทำให้เกิดการคัดกรองก่อนเกิดความเชื่อ และตรวจสอบข่าวจริง โดยใช้หลักทางพระพุทธศาสนา ซึ่งสอนมากว่า 20 ปีแล้ว แสดงว่าการรู้เท่าทันสื่อมันถูกสอนกันได้ ฉะนั้นจะอยู่ในแผนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
“หลงเชื่อเพราะรู้ไม่เท่าทันสื่อ ถ้ามันไม่จริงและเป็นเท็จ มันเกิดผลร้ายมหาศาล เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การใช้ชีวิตของผู้คนก็จะเปลี่ยนไปจากการรับรู้ข่าวปลอมและเกิดความเสียหายในที่สุด” ดร.วิษณุกล่าว
ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ส่งเสริมและมุ่งผลิตสื่อสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการในการคัดกรองสื่อที่ปลอดภัย รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วมในสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ กองทุนจึงจัดตั้งเวทีทั้ง 5 ภาค โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนเข้าใจการรู้เท่าทันสื่อ การรับสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยกองทุนตระหนักดีว่าการขับเคลื่อนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ไม่สามารถทำได้แต่เพียงผู้เดียว
การจัดโครงการเราเริ่มมาทั้งหมด 4 ภาค 4 พื้นที่ จนถึงวันนี้เป็นเวทีสุดท้าย โดยในเวทีนี้จะเปิดให้มีส่วนร่วมในการทำเวิร์คช็อปในห้องทั้งหมด 3 อนุกรรมการฯ ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อไป วันนี้เราจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อไป