นายบัญชา ขาวเมืองน้อย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟในฐานะรองประธานคณะทำงานโครงการยุทธศาสตร์รักษ์นิเวศ กล่าวว่า ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลัก อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน ดินน้ำป่าคงอยู่ โดยในด้านดินน้ำป่าคงอยู่ โครงการ "ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง"มีเป้าหมายบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และต่อยอดสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน สนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมายความยั่งยืน 2030 ของซีพีเอฟ และสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ(Sustainable Development Goals : SDGs)
ซีพีเอฟ ร่วมมือกรมป่าไม้ และชุมชน เดินหน้าโครงการ "ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" ตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีโดยปีนี้เข้าสู่ระยะที่สอง (ปี 2564-2568) มีเป้าหมายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเพิ่มเป็น 7,000 ไร่ จากระยะที่หนึ่ง (ปี 2559-2563) ที่ดำเนินการแล้วเสร็จรวม 5,971 ไร่
กิจกรรมเริ่มต้นของปีนี้ซึ่งเข้าสู่ระยะที่ 2 จิตอาสาซีพีเอฟ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และชุมชน ลงพื้นที่ซ่อมแซมฝายชะลอน้ำ 6 ฝาย ที่ทำไว้ตั้งแต่ ปี 2561 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำหน้าที่ของฝายในการชะลอการไหลของน้ำ ดักตะกอน กิ่งไม้ เศษไม้ ดิน โคลน เพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณฝายและพื้นที่เหนือฝาย เพิ่มปริมาณน้ำใต้ดิน ทำให้ผืนดินมีความชุ่มชื้น ซึ่งในระยะต่อไป ต้นไม้ในพื้นที่โครงการฯที่เติบโตขึ้น จะสามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับกิจกรรมแรกของปีนี้ จิตอาสาซีพีเอฟ เจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) และชุมชน ร่วมซ่อมแซมฝายชะลอน้ำ 6 ฝาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชะลอการไหลของน้ำและดักตะกอนก่อนเข้าสู่ฤดูฝน โดยมีว่าที่ร้อยตรีทรงพล แป้นแก้ว นายอำเภอพัฒนานิคม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายภูมินพศ์ บุญบันดาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) นำเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ ร่วมกิจกรรม กับจิตอาสาซีพีเอฟจากสายธุรกิจต่างๆ 200 คน รวมทั้งอาจารย์และนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลพบุรี ลงพื้นที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ผืนป่าเขาพระยาเดินธงยังเป็นต้นแบบการปลูกป่า จากความสำเร็จในการนำรูปแบบปลูกป่า 4 รูปแบบมาใช้ทำป่าฟื้นตัวเร็วขึ้น เป็นห้องเรียนธรรมชาติและแหล่งเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่สนใจเกี่ยวกับการปลูกป่า โดยที่ผ่านมา มีหน่วยงานต่างๆ และสถานศึกษาที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี สาขาชีววิทยาเชิงอนุรักษ์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลพบุรี บริษัท บี.กริม ดร.เกฮาร์ด ลิงค์ บิวดิ้ง จำกัด บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้นำความสำเร็จการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไปขยายผลในการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนใกล้เคียง โดยส่งเสริมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมผลิตอาหารที่ปลอดภัย จากการทำโครงการปลูกผักปลอดสาร และโครงการปล่อยปลาลงเขื่อน ทำให้ชุมชนมีแหล่งอาหารไว้บริโภคเอง และตระหนักรู้คุณค่าของป่าและน้ำ