15 บทเรียนแห่งความสำเร็จ จากซีอีโอ Smooth E
นายอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา ผู้ก่อตั้ง และกรรมการบริหาร สลิงชอท กรุ๊ป เปิดเผยว่า ได้สรุปแนวคิด 15 บทเรียนแห่งความสำเร็จของ ดร.แสงสุข พิทยานุกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของสินค้าแบรนด์ Smooth E และ Dentiste และยังถือเป็นสุดยอดกูรูด้าน Marketing รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนบ่มเพาะธุรกิจ ที่สอนผู้ประกอบการให้มี Entreprenuerial Mindset
แนวคิด 15 ข้อ 15 บทเรียนธุรกิจ คือ
1. ทำ 10 สำเร็จ 1 – นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียดีๆ หรือความสำเร็จใหม่ๆ ทั้งหลาย จากประสบการณ์ของท่าน ทำหรือคิด 10 อย่าง สำเร็จแค่อย่างเดียว ก็คุ้มแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ ทำแค่ 3-4 อย่าง พอไม่สำเร็จ ก็เลิก พวกนี้ขาดทุนแน่ๆ เพราะสิ่งที่ทำไปแล้ว ลงทุนลงแรงลงเงินไปแล้ว ก็ไม่มีโอกาสได้กลับคืนมา แต่ถ้าทำต่อไปถึง 10 โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนคืนกลับมา ย่อมมีมากกว่า
2. Swiss Mindset – ทำไมประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ มีประชากรแค่ไม่ถึง 10 ล้านคน หิมะตกปีละ 6 เดือน แทบทำอะไรไม่ได้เลย แต่สวิสมีแชมป์โลกเทนนิสหลายคน มีนาฬิกาแบรนด์ดังๆ มากมาย ใครจะเรียนเรื่องการโรงแรมก็ต้องไปที่สวิส ทั้งๆ ที่โรงแรมก็มีไม่กี่แห่งเมื่อเทียบกับอเมริกา เฉลยคือ เพราะคนสวิสมี Mindset แบบ Never Give Up (ไม่ยอมแพ้) ซึ่งคนที่อยากประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมี Mindset แบบนี้
3. นำจุดแข็งของคนอื่นมาสร้างความสำเร็จให้ตัวเอง – ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนเก่งทุกเรื่อง เราทุกคนเก่งบางเรื่อง หากเสียเวลาไปทำเรื่องที่ไม่เก่ง นอกจากจะทำได้ไม่ดีแล้ว ยังต้องใช้เวลายาวนานกว่าปกติด้วย คนที่ประสบความสำเร็จ มักเลือกใช้ความเก่งของคนอื่น มาชดเชยสิ่งที่ตัวเองไม่เก่ง ในแง่การทำธุรกิจ ก็ต้องรู้จัก Partner กับคนอื่นที่เก่งกว่า อย่าไปคิดว่าเขาเป็นคู่แข่ง แต่ให้คิดว่าเขาเป็นคู่ค้า
4. Innovation Cycle – วงจรของการรังสรรค์ความคิด เริ่มต้นจากการมีความฝันหรือจินตนาการ (Imagination) หลังจากนั้นจึงคิดสร้างสรรค์ต่อยอดจากจินตนาการที่มี (Creativity) แล้วทำให้เป็นนวัตกรรม (Innovation) จากนั้นต้องรู้จักที่จะทำตลาดเพื่อนำนวัตกรรมนั้นไปสู่ผู้บริโภค (Entrepreneurship) ปัญหาที่มักพบเจอคือ นวัตกรรมหลายอย่าง ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เพราะไม่รู้จะเอามาทำตลาด ขายให้ได้ตังค์ ได้อย่างไร
5. 8M for Billionaire – คาถา 8M สู่การเป็นเศรษฐีพันล้าน
1. Mindset – ทัศนคติและวิธีคิดแบบผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) ซึ่งจะได้อธิบายในรายละเอียดให้ฟังในตอนต่อๆ ไป
2. Motivation – ความมุ่งมั่น หลงใหลในส่ิงที่ทำ (เป็นคำเดียวกับ Passion)
3. Model – การมีโมเดลทางธุรกิจ (Business Model) ที่เหมาะสมกับยุคสมัยและใช้ความได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยีมาช่วย
4. Move Fast – ลงมือทำให้เร็ว โลกทุกวันนี้ ปลาเร็วกินปลาทุกชนิด
5. Money – เงินลงทุนต้องมี การบริหารเงินทองต้องดีและมีประสิทธิภาพ
6. Marketing – มีหัวคิดด้านการตลาด มองโอกาสให้ออก
7. Man – ใช้คนให้เหมาะกับงาน มองหาคนเก่งๆ มาร่วมงาน จับมือกับคู่ค้าที่เก่งกว่า
8. Managment – การบริหารจัดการคนและองค์กร ต้องทำอย่างมืออาชีพ หมั่นหาความรู้และทดลองนำเทคนิคการบริหารใหม่ๆ มาใช้อยู่เสมอ
6. ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง – คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน กล้าฝัน ความคิดหรือไอเดียบ้าๆ ส่วนใหญ่มักได้ผล อะไรที่คนอื่นบอกว่าอย่าทำ…ให้ลองทำ อะไรที่คนอื่นบอกว่าทำเลย…อย่าทำ !
7. ออกจาก Comfort Zone มาสู่ Learning & Growth Zone – คนเรามักชอบใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่สบาย ที่ไม่ต้องปรับตัว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ท่านบอกว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคน กล้าที่จะเดินออกจากพื้นที่สบาย ไปสู่พื้นที่แห่งความกลัว (Fear Zone) และหากสามารถก้าวพ้นความกลัวไปได้ ก็จะเข้าสู่พื้นที่แห่งการเรียนรู้ (Learning Zone) และเติบโต (Growth Zone) ในที่สุด (ตามรูปประกอบ)
8. อย่าเป็นแค่ Business Owner ให้สวมวิญญาณ Entrepreneur – แบ่งประเภทของคนทำงานเป็น 3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย Employee, Business Owner และ Entrepreneur และบอกว่าถ้าอยากสำเร็จ อย่าเป็นแค่ Employee หรือ Business Owner แต่ให้สวมวิญญาณของ Entrepreneur
9. Entrepreneur – คำจำกัดความสั้นๆ ของ Entrepreneur ว่าหมายถึง ผู้ริเริ่ม ไม่ยอมแพ้ และทำไม่หยุด
10. คุณสมบัติ 5P ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ
1. Passion – ความมุ่งมั่น
2. Patience – ความอดทน (ใจเย็น รอคอยเป็น)
3. Persistence – การยืนหยัดต่อสู้ (กัดไม่ปล่อย)
4. Perseverance – ความบากบั่น ความเพียรพยายาม (ไม่ท้อแท้ ไม่ท้อถอย หรือหมดกำลังใจง่ายๆ)
5. Practice – การฝึกฝน ใฝ่เรียนรู้
11. ต้องหาจุด Sweet Spot ให้เจอ – หมายถึงจุดที่ปัจจัย 3 อย่างที่สำคัญต่อความสำเร็จ มาบรรจบกันพอดี ได้แก่
1. สิ่งที่เราทำได้ดี (What we do best)
2. ส่ิงที่เรารัก ชอบ และหลงใหล (What we love)
3. สิ่งที่ตลาดหรือลูกค้าต้องการ (What the market will buy)
12. ทำแต่ไม่สำเร็จ มีต้นทุนต่ำกว่า ไม่ทำอะไรเลย – ข้อนี้เชื่อมโยงกับข้อที่ 1 (ทำ 10 สำเร็จ 1) คือ ถ้าลงมือทำอะไรก็ตาม แต่(ยัง)ไม่สำเร็จ ถ้าไม่หยุดทำ ยังคงหาทางทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นต่อไปเรื่อยๆ สักวันก็จะประสบความสำเร็จ ในทางกลับกัน หากไม่ลงมือทำอะไรเลย หรือทำแค่ 1-2 อย่าง พอไม่สำเร็จก็เลิกทำ แบบนี้ไม่มีทางประสบสำเร็จแน่นอน
13. หมั่นตั้งคำถาม Why we do what we do – การทำอะไรให้สำเร็จ ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการมีเป้าหมายที่ชัดเจน การหมั่นตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอๆ ว่า “เราทำสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ เพื่ออะไร” เป็นการทบทวนว่า เรากำลังทำสิ่งที่ตอบโจทย์เป้าหมายของชีวิตเราอยู่ ใช่หรือไม่
14. ความสำเร็จ เรียนรู้จากคนอื่นที่ไม่รู้ธุรกิจเราได้ – ประสบการณ์ ช่วยให้รู้ลึก แต่สิ่งที่มาพร้อมกับความรู้ลึกคือความรู้ที่คับแคบ บางทีไอเดียใหม่ๆ อาจมาจากคนที่ไม่รู้จักธุรกิจของเราเลย ก็เป็นไปได้ หมั่นหาโอกาสพูดคุยกับคนอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจเดียวกับเราบ้าง อาจจะได้แนวคิดใหม่ๆ ที่มาช่วยต่อยอดความสำเร็จที่มีอยู่ได้
15. Entrepreneur ไม่ใช่ศาสตร์หรือศิลป์ แต่คือการฝึกฝน – ไม่มีใครทำอะไรเป็นมาตั้งแต่เกิด จริงอยู่บางคนอาจมีพรสวรรค์ติดตัวมา เรียนรู้แป๊บเดียว ก็ทำได้ขั้นเทพ แต่งานวิจัยทุกสำนักบวกับประสบการณ์ชองผู้ที่ประสบความสำเร็จจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลก ล้วนยืนยันตรงกันว่า “พรแสวง มาแรงกว่า พรสวรรค์”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง