หลังจากที่การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ในหลายภาคส่วน รวมไปถึงภาคการเกษตร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกรรวมกว่า 10 ล้านรายในฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ โดยทันทีที่ทางภาครัฐประกาศโครงการนี้ออกไป เกษตรกรจำนวนมากได้เดินทางไปติดต่อเปิดบัญชีและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ที่สาขาของ ธ.ก.ส. เป็นจำนวนมากกว่าปกติถึง 10 เท่าตัว จากเดิมที่แต่ละสาขาจะสามารถรับรองลูกค้าได้สูงสุดราว 100 คนพร้อมๆ กัน
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า “เมื่อมีผู้เข้าไปติดต่อสอบถามและใช้บริการที่สาขาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากปริมาณผู้ใช้บริการที่มากขึ้นจะนำไปสู่ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19 ที่สูงขึ้นเช่นกันไม่ว่าจะเป็นสำหรับตัวเกษตรกรเองหรือพนักงานของธนาคาร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรและเพิ่มระยะห่างทางสังคมเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย
ธ.ก.ส. จึงได้ร่วมกับไมโครซอฟท์ ประเทศไทย พัฒนาและเปิดเว็บไซต์ 'www.เยียวยาเกษตรกร.com' เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าตรวจสอบสิทธิการรับเงินเยียวยา แจ้งช่องทางการโอนเงินและตรวจสอบสถานะ การรับเงินเยียวยาได้จากฐานข้อมูลของ ธ.ก.ส. โดยตรง ไม่จำเป็นต้องไปติดต่อผ่านสาขา อีกทั้งมีศักยภาพในการรองรับการเข้าใช้งานจากเกษตรกรทั่วประเทศพร้อม ๆ กันได้ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวได้เริ่มเปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา”
ด้วยโจทย์ของ ธ.ก.ส. ในการเร่งพัฒนาเว็บไซต์ที่สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้จำนวนมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น โดยที่ยังสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ทีมงานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของธนาคารจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วที่จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเพิ่ม-ลดขนาดของระบบตามปริมาณการใช้งานจริงได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาจบลงที่แพลตฟอร์มคลาวด์ Azure ของไมโครซอฟท์ ซึ่งนอกจากจะมีสมรรถนะที่ตอบโจทย์ พร้อมรับมือการพัฒนาและเปิดบริการเว็บไซต์อย่างคล่องตัวและรวดเร็วแล้ว ยังผ่านการรับรองด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลโดยมาตรฐานและสถาบันต่าง ๆ กว่า90 รายการ
ส่วนในขั้นตอนการพัฒนา ทีมงานของทั้ง ธ.ก.ส. และไมโครซอฟท์ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งสามารถพัฒนาเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com จนเสร็จสิ้นและพร้อมเปิดใช้งานภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น โดยภายในวันแรกหลังเปิดให้บริการ เว็บไซต์ดังกล่าวสามารถรองรับการเข้าถึงและรับส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบของทางธนาคารได้รวมกว่า 30 ล้านรายการโดยไม่มีปัญหาในการเข้าใช้งานแต่อย่างใด
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความคล่องตัวเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดขององค์กรที่จะประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล และเราก็มีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาเว็บไซต์แห่งนี้กับ ธ.ก.ส. ด้วยแพลตฟอร์มคลาวด์ที่แข็งแกร่งและเปี่ยมประสิทธิภาพ พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
สำหรับภารกิจนี้ ทีมนักพัฒนาของไมโครซอฟท์ในประเทศไทยยังได้ใช้แพลตฟอร์ม ไมโครซอฟท์ ทีมส์(Microsoft Teams) ในการประสานงานทั้งภายในทีมไมโครซอฟท์ทั่วโลกและกับทีมงานของ ธ.ก.ส. ต่อเนื่องตลอดทั้ง 48 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย แม้จะไม่ได้พบหน้ากัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคโควิด-19 ขณะที่ทีมงานของทั้งสองฝ่ายต้องร่วมงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายร่วมกัน เพราะเราทราบดีว่าภารกิจของเราใน 48 ชั่วโมงนี้มีความสำคัญมากขนาดไหนสำหรับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ”
ทีมวิศวกรคลาวด์ของไมโครซอฟท์และผู้เชี่ยวชาญจากบลูบิค ได้ทำงานร่วมกับทีมนักพัฒนาแอพพลิเคชันของ ธ.ก.ส. เพื่อออกแบบระบบเบื้องหลังเว็บไซต์โดยละเอียด โดยเลือกใช้เทคโนโลยีบนแพลตฟอร์ม Azure ที่เหมาะสมมาใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชันโดยมุ่งให้ตอบโจทย์มากที่สุด ทั้งในด้านความรวดเร็วของการใช้งาน และความสามารถรองรับโหลดจำนวนมหาศาลได้ในเวลาอันสั้น
ด้านนายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด กล่าวอีกว่า “บริษัทบลูบิค กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี มีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมความสำเร็จในโครงการพัฒนาเว็บไซต์ 'เยียวยาเกษตรกร.com' เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
โดยบริษัทฯได้เข้าไปให้คำปรึกษาในการนำระบบขึ้นแพลตฟอร์มคลาวด์ Azure ของไมโครซอฟท์ โดยทำงานร่วมกับคณะทำงานจากไมโครซอฟท์ ประเทศไทยในการวางแผนและทบทวนความเสี่ยงในการออกแบบสถาปัตยกรรมไอที (IT Architecture) ของระบบ รวมทั้งเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินงาน เพื่อให้ ธ.ก.ส. มั่นใจได้ว่าระบบการลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรครั้งนี้จะสามารถรองรับการทำรายการปริมาณมหาศาลได้โดยไม่มีปัญหาขัดข้อง”
ก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส. ได้เปิดตัวบริการทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนบนแอพ ธ.ก.ส. A-Mobile หรือ BAAC A-Mobile ที่ให้เกษตรกรและลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน ทั้งยังรองรับการชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR Code เพิ่มช่องทางการให้บริการของธนาคารรองรับความต้องการของลูกค้า เพื่อเปลี่ยนระบบธุรกรรมเงินสด (Cash society) ไปสู่ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์(Electronic society)
สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของทางธนาคารในด้านการพัฒนาการบริการทางการเงินครบวงจรและทันสมัย และนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ